วันที่: 23 พฤษภาคม 2556
ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9560000062002



       “หมอวิชัย” แฉบอร์ด อภ.ถูกบังคับลงมติเอกฉันท์ปลด “หมอวิทิต” มีการเมืองแทรกแซง ลั่นแปรรูป อภ.จะทำลายระบบยา ประชาชนเสียประโยชน์ ป้องหมอชนบทเปล่าชวนผู้ป่วยล้างไตประท้วงหน้าบ้านนายกฯ ชี้มาด้วยควาสสมัครใจ สามารถทำได้ ด้าน รพร.อีสานเล็งส่งทีมแพทย์หนุนดูแลผู้ป่วย


นพ.วิชัย โชควิวัฒน

       วันนี้ (23 พ.ค.) นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตประธานคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม (บอร์ด อภ.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ชี้มูลมีการกระทำที่เข้าข่ายความผิดจากการจัดซื้อวัตถุดิบยาพาราเซตามอล ว่า ตนยังไม่ได้รับรายงานสรุปผลการชี้มูลจากดีเอสไอ แต่ยืนยันว่าสิ่งที่ดีเอสไอกล่าวหาไม่เป็นความจริงและอะไรที่เป็นการละเมิดก็จะใช้สิทธิในการปกป้องตัวเอง ส่วนกรณีการปลด นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ออกจากตำแหน่ง ผอ.อภ.นั้น เป็นการส่งสัญญาณว่าการเมืองจะเข้าไปแทรกแซง ซึ่งจะทำให้ไม่เหลือระบบธรรมาภิบาลในองค์กร ถูกทำลายและถูกฉกฉวยผลประโยชน์ ไม่ได้ทำเพื่อประชาชน ตามเจตนารมณ์ของการตั้งองค์กรอีกต่อไป วิธีการมีหลากหลาย เช่น ไม่ผลิตยาที่ควรผลิตเพื่อเอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจยาข้ามชาติโดยรับผลประโยชน์ การพยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจ เป็นต้น
       
       “เท่าที่ผมเป็นประธานบอร์ด อภ.มา 5 ปี ยืนยันว่า อภ.ควรที่จะดำรงสถานะเป็นรัฐวิสาหกิจต่อไป ไม่จำเป็นต้องแปรรูป เพราะถ้าแปรรูปวัตถุประสงค์ขององค์กรจะเปลี่ยนไป มุ่งหากำไรสูงสุดให้กับผู้ถือหุ้น ทำให้วัตถุประสงค์หรือหน้าที่ในการตั้ง อภ.ขึ้นมาทำได้ลำบากหรือทำไม่ได้อีกต่อไป เช่น การสำรองยา เตรียมยาในภาวะฉุกเฉิน จัดหายาเพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน สำรองยากำพร้า ทำซีแอล หรือจัดหายาราคาถูก เป็นต้น เพราะต้องมุ่งแสวงหากำไร เป็นการทำลายระบบยา ทำให้ประชาชนเดือดร้อน และงบประมาณของรัฐต้องเสียไปโดยใช่เหตุ ทั้งนี้ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ อภ.ก็ให้สัมภาษณ์เองว่า รมว.สาธารณสุขเคยถามเขาว่าจะแปรรูป อภ.จะค้านหรือไม่” นพ.วิชัย กล่าว
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า การปลด พล.ท.นพ.มงคล จิวะสันติการ จากตำแหน่ง ผอ.อภ.สมัย นพ.วิชัย เป็นประธานบอร์ด ต่างจากมติปลด นพ.วิทิต อย่างไร นพ.วิชัย กล่าวว่า สมัยตนเป็นประธานบอร์ดในการปลด พล.ท.นพ.มงคล นั้น บอร์ดได้พิจารณาโดยอิสระ ชั่งน้ำหนักทุกอย่างแล้วเห็นว่าสมควรที่จะเลิกจ้างและไม่ได้มีการกล่าวโทษว่าเขาทำความผิดร้ายแรง แต่ให้เหตุผลในการเลิกจ้างว่าเพื่อประโยชน์ขององค์การฯจึงขอเลิกจ้าง ที่สำคัญเป็นการตัดสินอย่างอิสระด้วยเหตุผล บอร์ดทุกคนสามารถอภิปรายได้อย่างเต็มที่ก่อนมีมติและดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป
       
       “การปลดในครั้งนั้นไม่ได้เป็นการปลดแบบลุกลี้ลุกลน เพราะมีการคุยและให้โอกาสต่างๆ มากมาย จนในที่สุดคิดว่าไม่ควรให้ดำรงตำแหน่งอยู่ต่อไป จึงมีการประชุมในวันจันทร์และเสนอเข้า ครม.ในวันอังคาร เพราะถ้าหากไม่ดำเนินการฉับไวจะมีการวิ่งเต้น แต่การปลด นพ.วิทิต ครั้งนี้เป็นการดำเนินการตรงกันข้าม จากข่าวที่ปรากฏออกมาค่อนข้างชัดเจนว่า เป็นการสนองอำนาจทางการเมือง มีการร่นประชุมเพื่อให้ทัน รมว.สาธารณสุข ก่อนไปต่างประเทศ และมติเลิกจ้างก็มีความไม่ชอบมาพากลอยู่หลายประการ” นพ.วิชัย กล่าวและว่า เท่าที่ทราบข่าวมีบอร์ดหลายคนถูกบังคับให้ต้องมาเข้าประชุมทั้งที่มีภารกิจต้องไปต่างประเทศหรืออยู่ต่างจังหวัดและต้องมีมติเป็นเอกฉันท์ด้วย โดยไม่มีโอกาสได้ฟังข้อมูลต่างๆ เมื่อลงมติออกมาก็บอกว่าเลิกจ้างทันทีในวันที่ 17 พ.ค. 2556 แต่เมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2556 ก็มีการออกคำสั่งใหม่ว่าให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ เป็นลักษณะที่ลุกลี้ลุกลนไม่ได้เป็นไปตามเหตุผลที่ควรจะเป็น
       
       ผู้สื่อข่าวถามว่า กรณีชมรมแพทย์ชนบทจะชุมนุมที่หน้าบ้านนายกฯ โดยจะทำการล้างไตให้ผู้ป่วยโรคไตด้วยอาจเป็นเรื่องไม่เหมาะสม และจะทำให้ผู้ป่วยเสี่ยงอันตราย นพ.วิชัย กล่าวว่า ตามที่ตนได้ยินแพทยืชนบทไม่ได้เป็นผู้นำผู้ป่วยไป แต่ผู้ป่วยโรคไตต้องการมาแสดงออกทางสัญลักษณ์เอง เพราะผู้ป่วยล้างไตได้รับอานิสงส์อย่างมากจาก อภ. เพราะเมื่อก่อนน้ำยาล้างไตราคาสูง แต่ นพ.วิทิตมีส่วนช่วยให้ราคาถูกลง ซึ่งการล้างไตหน้าบ้านนายกฯ โดยส่วนตัวมองว่าทำได้ อย่างช่วงน้ำท่วมใหญ่หลายคนก็ไปล้างไตที่ศาลาวัด เพราะการล้างไตผ่านช่องท้องได้พัฒนาการจนผู้ป่วยสามารถช่วยตนเองได้มาก
       
       เมื่อถามว่า จะเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือไม่ นพ.วิชัย กล่าวว่า ในช่วงน้ำท่วมใหญ่ ผู้ป่วยที่ล้างไตผ่านช่องท้องเป็นผู้ที่เดือดร้อนน้อยกว่าผู้ที่ต้องไปล้างไตในโรงพยาบาล เพราะน้ำท่วมไปไม่ได้ และโรงพยาบาลน้ำท่วมปิดสถานที่
       
       ด้าน นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผอ.รพ.สมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย และแพทย์ชนบทดีเด่นศิริราชพยาบาล กล่าวว่า ระบบสาธารณสุขกำลังถูกครอบงำ ผู้ใหญ่ของบ้านเมืองต้องลุกขึ้นจุดเทียนเตือนสติ ทุกส่วนต้องรวมตัวกันปกป้องระบบและประชาชน ไม่ให้นโยบายของ นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข ทำร้ายประชาชนมากขึ้น ทั้งนี้ เครือข่าย รพ.สมเด็จพระยุพราช และ รพ.ชุมชนภาคอีสานตอนบนพร้อมจะส่งทีมแพทย์และรถพยาบาลเข้ากรุงเทพฯ เพื่อดูแลผู้ป่วยโรคไตที่ตัดสินใจมาทำการล้างไตผ่านช่องท้องหน้าบ้านนายกฯ เพื่อเรียกร้องให้ย้าย นพ.ประดิษฐ ออกจากตำแหน่ง
       
       นายธนพล ดอกแก้ว รองประธานชมรมเพื่อนโรคไตแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผู้ป่วยไตวายจะร่วมขับไล่ รมว.สาธารณสุข เพราะเห็นว่ามีนโยบายทำลายระบบสุขภาพของไทย เอื้อประโยชน์ให้ธุรกิจเอกชน บริษัทยาข้ามชาติ แม้จะรู้ว่ามีความเสี่ยง แต่ห่วงอันตรายที่จะเกิดกับผู้ป่วยในอนาคตจากการทำลายระบบบริการสุขภาพมากกว่า หวังว่านายกฯจะรีบแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยต้องผิดหวัง