ASTV ผู้จัดการออนไลน์ :วันที่ 20 มีนาคม 2554

“จุรินทร์” จัดบริการตรวจสุขภาพคนไทยที่กลับจากญี่ปุ่นด้วยเครื่องซี 130 คืนนี้ ย้ำคนไทยอย่าตื่นตระหนกกินไอโอดีนเม็ดล่วงหน้า เพราะไม่จำเป็น เตือนอย่าหลงเชื่อซื้อไอโอดีนเม็ดผ่านเน็ต และหากรับประมาทานไอโอดีนที่มีปริมาณเข้มข้นกว่าปกติจะมีผลต่อสุขภาพทั้งคลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว เผยคนท้อง กลุ่มที่แพ้ไอโอดีน คนที่มีแผลบริเวณผิวหนังและกลุ่มที่เป็นไทรอยด์เป็นพิษห้ามทานเด็ดขาด
              วันนี้ (20 มี.ค.) ที่อิมแพค เมืองทองธานี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการเฝ้าระวังความปลอดภัยและการให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีภัยพิบัติที่ประเทศญี่ปุ่นว่า สธ.ได้ปฏิบัติงานเชิงรุกมาหลายวัน และได้มีการสุ่มตรวจอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 5 วันแล้ว ที่ผ่านมายังไม่พบการปนเปื้อนสารกัมมันตภาพรังสีแต่อย่างใด และจะดำเนินการเฝ้าระวังดูแลอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นอาหารในประเทศไทยขณะนี้ถือว่าปลอดภัย
              นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ขอฝากเตือนประชาชนอย่าตื่นตระหนกเรื่องการกินไอโอดีนเม็ดเพื่อป้องกันสารกัมมันตรังสี สำหรับประเทศไทยมีกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเฝ้าระวังในเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ไม่พบว่ามีปริมาณกัมมันตรังสีที่เป็นอันตรายต่อประชาชน ดังนั้น การสะสมไอโอดีนเม็ดหรือรับประทานไอโอดีนเม็ดล่วงหน้าจึงไม่มีความจำเป็น เพราะหากเกิดเหตุจำเป็นเมื่อใด กระทรวงสาธารณสุขจะเข้าไปดูแลและแจกจ่ายให้กับประชาชนเอง สำหรับกรณีที่มีการประกาศขายไอโอดีนเม็ดทางเว็บไซต์ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อมากักตุนไว้ เพราะการรับประทานไอโอดีนเม็ดชนิดนี้ ซึ่งมีปริมาณไอโอดีนเข้มข้นกว่าปกติถึง 1,000 เท่า หากรับประทานโดยไม่จำเป็นจะมีผลข้างเคียงต่อสุขภาพ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน เวียนหัว ทำให้เกิดแผล โดยมี 4 กลุ่มที่ห้ามรับประทาน ได้แก่ 1.กลุ่มที่แพ้ไอโอดีน 2.กลุ่มที่มีแผลทีผิวหนัง 3.หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร และ4.กลุ่มที่เป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ คนที่จำเป็นต้องรับประทานคือ คนที่จะเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยงตามที่รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศเท่านั้น
       
       นายจุรินทร์กล่าวต่อไปว่า สำหรับคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่นด้วยเครื่องซี 130 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ คืนนี้เวลา 20.30 น. จำนวน 46 คน กระทรวงสาธารณสุข ได้ฝากเอกสารไว้บนเครื่องซึ่งจะมีคำแนะนำการปฏิบัติตัว และหมายเลขสายด่วนให้คำปรึกษาของโรงพยาบาลราชวิถี ทางหมายเลข 0-2206-2952 และ 0-2354-8108 ต่อ 6622 ตลอด 24 ชั่วโมง โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี ในเวลาราชการ หมายเลข 0-2517-4333 และ 0-2517-4270-9 นอกเวลาราชการหมายเลข 0-2517-4270-9
              ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขจะร่วมกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการดูแลสุขภาพคนไทยที่กลับจากเที่ยวบินดังกล่าว โดยสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ จะตรวจวัดปริมาณสารกัมมันตภาพรังสี โดยคืนนี้ได้ปรับตั้งค่าจาก 20 เท่าของปริมาณในสิ่งแวดล้อมลดลงเหลือ 5 เท่า เพื่อเพิ่มความปลอดภัยแก่คนไทยที่กลับมาจากญี่ปุ่น หากตรวจพบผู้โดยสารที่มีปริมาณสารกัมมันตภาพรังสีเกินค่าที่ตั้งไว้ จะนำเข้าสู่กระบวนการชำระล้างการเปรอะเปื้อนจากกัมมันตรังสี จากนั้นจะมีทีมแพทย์พยาบาลจากกรมควบคุมโรคทำการตรวจร่างกายซ้ำ หากพบอาการน่าสงสัยจะส่งตัวไปโรงพยาบาลราชวิถีเพื่อรับการตรวจสุขภาพโดยละเอียดต่อไป
              สำหรับการให้บริการที่จุดให้คำปรึกษาที่สนามบินสุวรรณภูมิวานนี้ (19 มีนาคม 2554) มีคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศญี่ปุ่น 1,079 คน มีผู้มาขอรับบริการ จำนวน 37 คน ผลการตรวจพบว่าปกติทั้งหมด สำหรับขาออกที่จะเดินทางไปญี่ปุ่น มีผู้มารับขอรับคำปรึกษาและขอไอโอดีนเม็ดจำนวน 41 คน ส่วนใหญ่จะเดินทางไปโตเกียวและโอซาก้า ซึ่งไม่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงในรัศมี 30 กิโลเมตร รอบโรงไฟฟ้า จึงไม่ได้ให้ไอโอดีนเม็ดไป