search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6517984
การเปิดหน้าเว็บ:9361193
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  ระวัง! ใช้ยาลดผมร่วง เสี่ยง เพศหด
  25 มิถุนายน 2555
 
 


ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000077294


เตือนผู้ใช้ยา ลดผมร่วง เสี่ยงได้รับผลข้างเคียง ทานอาหารน้อยลง-ความรู้สึกทางเพศลด อย.แนะปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
       
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้รับการร้องเรียนจากแหล่งข่าวว่า รับประทานยา “ฟิแนสเทอไรด์” (Finasteride) ซึ่งเป็นยากลุ่มที่ใช้รักษาภาวะผมร่วง แล้วเกิดผลข้างเคียง คือ ทานอาหารได้น้อย และความรูสึกทางเพศลดลง ซึ่งจากการตรวจสอบในเว็บไซต์หลายแห่งพบว่า มีผู้ใช้ยาดังกล่าวได้รับผลกระทบจำนวนมาก ทั้งชาวต่างชาติ และชาวไทย ส่งผลให้ผู้ใช้บางรายเกิดอาการกังวลอย่ามาก
       
ล่าสุด ภก.วินิต อัศวกิจวิรี ผู้ อำนวยการสำนักยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ปัจจุบันในวงการเภสัชกรรมไทย ทราบดีว่า ยาฟิแนสเทอไรด์ เป็นยารักษาต่อมลูกหมากโต ในเพศชาย เพื่อยับยั้งฮอร์โมนเพศชาย ที่มีมากเกิน แต่ก็มีการปรับใช้เพื่อลดอาการผมร่วงได้เฉพาะในเพศชายเท่านั้น แต่ในเพศหญิงห้ามใช้ โดยเฉพาะหญิงมีครรภ์นั้น จะเสี่ยงต่อการแท้งลูกมาก ยาดังกล่าวเมื่อรับประทานไปแล้วจะมีผลช่วยลดผมร่วงที่เกิดจากฮอร์โมนเพศชายสูง ซึ่งลดได้เต็มที่ แค่ 20-30% เท่านั้น แต่กรณีผมร่วงทีเกิดจากกรรมพันธุ์ หรือเกิดในผู้ที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ก็ถือเป็นการเสื่อมสภาพของเส้นผมและรากผมแล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งอาจเป็นพราะขาดวิตามิน บี 6 โดยจะออกฤทธิ์ที่เห็นผลชัดเจนหลังจากทานไปแล้ว 3-4 เดือน
       
"นอกจากยาฟิแนสเทอไรด์ แล้ว ยังมียาอีกตัว คือ ไมนอกซิดิล (Minoxidil) ที่ช่วยลดอาการผมร่วงเช่นกัน โดยยาดังกล่าวสามารถใช้ได้ทั้งแบบทาน และ ทา มีฤทธิ์ช่วยให้เส้นเลือดขยายตัว ซึ่งเลือดก็จะไปเลี้ยงรากผมให้แข็งแรงมากขึ้น แต่ก็ไม่สามารถลดได้ 100% กรณีของการได้รับผลข้างเคียงจากการใช้ยานั้นเป็นเรื่องปกติที่ผู้บริโภคซึ่งซื้อยารับประทานเอง มักได้รับผลกระทบ คือ จำนวนสเปิร์มลดลง แต่ก็ไม่ถึงขั้นสมรรถภาพทางเพศเสื่อม แค่รูสึกน้อยลงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม กรณียาฟิแนสเทอไรด์ นั้น สิ่งหนึ่งที่ผู้บริโภคพึงกระทำ คือ การพบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาผมร่วงให้แน่ชัดก่อน ว่า เกิดจากสาเหตุใด เพราะยาดังกล่าวเป็นยาอันตราย ซึ่งสามารถจำหน่ายได้ตามร้านขายยาที่มีเภสัชกรควบคุม” ภก.วินิต กล่าว
       
ภก.วินิต กล่าวด้วยว่า สำหรับผู้ที่ได้รับผลข้างเคียงจากยาดังกล่าวแนะนำ ว่า ควรหยุดยา โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี แล้วหันไปรับประทานอาหารที่เน้นผักให้มาก หรือกินเนื้อสัตว์ในปริมาณที่เพียงพอ เพื่อให้เส้นผมได้รับวิตามิน บี 6 จะได้มีสภาพเส้นผมที่แข็งแรง และไร้ปัญหาสุขภาพจากผลข้างเคียง ส่วนกรณีอายุ 40 ปีขึ้นไป นั้นไม่จำเป็นต้องทานยาลดผมร่วงแต่อย่างใด เพราะเส้นผมอาจจะร่วงไปตามวัย