search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6518176
การเปิดหน้าเว็บ:9361415
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  บี้ “กิตติรัตน์” แจงห้าม อย.-กรมทรัพย์สินฯ พูดผลกระทบ FTA
  08 ตุลาคม 2555
 
 


วันที่: 8 ตุลาคม 2555
ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์



เครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ บี้ “กิตติรัตน์” แจงสั่ง อย.และกรมทรัพย์สินฯ ห้ามพูดเรื่องผลกระทบ FTA ไทย-อียู ชี้ กระทบการเข้าถึงยาของประชาชนและระบบสาธารณสุขของประเทศ พร้อมร่อนหนังสือร้อง กมธ.สาธารณสุข-ต่างประเทศ เข้าตรวจสอบ
       
วันนี้ (8 ต.ค.) นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ประเทศไทย กล่าวว่า ในวันนี้ เครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวีฯ พร้อมกับภาคประชาสังคมด้านการเข้าถึงยารวม 14 องค์กร ได้ทำหนังสือร้องเรียนให้มีการตรวจสอบกระบวนการจัดทำการเจรจาเขตการค้าเสรีระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป (Thai-EU FTA) ไปยังคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ วุฒิสภา โดยเฉพาะความพยายามเร่งรัดให้มีการนำร่างกรอบการเจรจาระหว่างไทยและสหภาพยุโรปเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และให้ทันการพิจารณาของรัฐสภา ทั้งที่ตามรัฐธรรมนูญปี พ.ศ.2550 มาตรา 190 ระบุว่าหากรัฐบาลจะทำข้อตกลงระหว่างประเทศที่จะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม และประชาชนอย่างกว้างขวาง ก่อนการดำเนินการตามหนังสือสัญญา หรือข้อตกลงดังกล่าว คณะรัฐมนตรีจะต้องให้ข้อมูล และจัดให้มีการรับฟังความเห็นของประชาชน และต้องชี้แจงรายละเอียดกรอบข้อตกลงต่อรัฐสภาเกี่ยวกับหนังสือสัญญานั้น
       
“ที่ผ่านมา กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศพยายามบิดเบือนข้อมูลผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากไทยต้องรับเงื่อนไขข้อตกลงทางการค้าว่าด้วยทรัพย์สินทางปัญญาที่เกินไปกว่าความตกลงในองค์การการค้าโลก (TRIPs Plus) โดยอ้างว่าไม่มีผลกระทบ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่ได้อยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริงและขาดหลักฐานสนับสนุนที่น่าเชื่อถือ และขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงกับผลการศึกษาจำนวนมาก อีกทั้ง กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศยังมีท่าทีที่ขัดแย้งกับหน่วยงานที่รับผิดชอบในเรื่องนี้โดยตรง ทั้งสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ที่ระบุตรงกันถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและข้อเสนอให้มีความระมัดระวังในการเจรจาเนื่องจากผลที่จะเกิดขึ้นจะไม่ใช่ลักษณะทวิภาคีเท่านั้น” ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อฯ กล่าว

นายอภิวัฒน์ กล่าวอีกว่า เมื่อปลายเดือนกันยายน มีรายงานข่าวว่า นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกหน่วยราชการที่เกี่ยวข้อง คือ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข และกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์เข้าพบเพราะไม่พอใจที่ 2 หน่วยงานนี้ออกมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากไทยต้องยอมรับทริปส์พลัส
       
“อยากให้รองนายกฯกิตติรัตน์ ออกมาชี้แจงเรื่องนี้ว่าเป็นความจริงหรือไม่ เหตุใดจึงสั่งให้ 2 หน่วยงานนี้ห้ามพูดเรื่องผลกระทบทั้งที่เป็นความจริง ผลกระทบต่อการเข้าถึงยาและระบบสาธารณสุขของประเทศไม่ใช่เรื่องที่จะมาเที่ยวโกหกหรือปิดบังความจริงได้ หากรายงานข่าวนี้เป็นเรื่องจริง นี่ไม่ใช่โกหกสีขาว (white lie) แล้ว เพราะเป็นการโกหกด้วยเจตนาร้าย แย่เสียยิ่งกว่าการหลอกลวงเป้าส่งออก เพราะเล่นกับชีวิตคน” นายอภิวัฒน์ กล่าว
       
นางปัจฉิมา ธนสมบัติ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า การเจรจาเอฟทีเอกับสหภาพยุโรปเป็นเรื่องใหญ่ต้องทำอย่างรอบคอบ และหากไทยไปยอมรับความตกลงที่เกินไปกว่าทริปส์ตามที่สหภาพยุโรปต้องการ จะนำไปสู่การแก้กฎหมายซึ่งประเทศสมาชิกอื่นๆ ขององค์การการค้าโลกจะมาเรียกร้องขอใช้ประโยชน์ด้วย และต้องศึกษาประเทศอื่นๆ ว่า เป็นเช่นไร ไม่ใช่ทำกันบางประเทศ แล้วไปยอมรับมา น่าจะดูผลประโยชน์ส่วนใหญ่ เพราะจะมีปัญหากับการเข้าถึงยาของประชาชนด้วย