วันที่: 6 ธันวาคม 2555
ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000148530

    
    
       อย.สนองนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล เข้มงวดกับมาตรการคุมเข้มการจำหน่าย ยาน้ำแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม พร้อมเตือนร้านขายยา หากพบกระทำฝ่าฝืนกฎหมายจะถูกดำเนินคดี อาจถึงขั้น พักใช้ใบอนุญาตขายยา
       
       นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การกระจายของยาน้ำแก้ไอชนิดน้ำเชื่อม พบว่า ยังมีการลักลอบซื้อขาย และขนย้ายลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างผิดกฎหมาย โดยจำหน่ายให้แก่เด็กและเยาวชนโดยไม่มีข้อบ่งใช้ทางการแพทย์ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ติดตามปัญหานี้มาโดยตลอด และยังคงเข้มงวดกับการควบคุมการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือ โปรเมทาซีน หรือ เดกซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ ซึ่งเป็นยาที่ถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมหนึ่งในยาสูตรสี่คูณร้อย ให้ผู้รับอนุญาตผลิตยา และผู้รับอนุญาตนำเข้ายา จำกัดปริมาณการจำหน่ายจากผู้ผลิตไปยังร้านขายยาไม่เกิน 300 ขวดต่อแห่งต่อเดือน เพื่อป้องกัน การนำยาดังกล่าวไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ พร้อมทั้งกำหนดมาตรการเพื่อแก้ปัญหาเกี่ยวกับการจำหน่าย ยาแก้ไอน้ำเชื่อม โดยส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานผู้ผลิตยาดังกล่าว เพื่อป้องปรามและกระตุ้น ให้กระจายยาอย่างระมัดระวัง รวมทั้ง ประสานให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ดำเนินการตรวจสอบการจำหน่ายยาดังกล่าวอย่างเข้มงวด นอกจากนี้ อย. ยังได้กำหนดมาตรการควบคุม “วัตถุดิบ” ของยา เพื่อลดปัญหาการรายงานข้อมูลการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอจากโรงงานผู้ผลิตที่เป็นเท็จ และเพิ่มมาตรการ กับโรงงานผู้ผลิตที่ไม่ให้ความร่วมมือ รวมถึงเน้นย้ำการปฏิบัติหน้าที่ของเภสัชกรในโรงงานผู้ผลิตยา และร้านขายยา
       
       เลขาธิการ อย.กล่าวต่อว่า อย. ขอเตือนร้านขายยาทุกแห่ง โดยเฉพาะในเขตพื้นที่จังหวัดภาคใต้ ขอให้ระมัดระวังในการจำหน่ายยาน้ำแก้ไอให้กับประชาชน เพื่อช่วยกันลดปัญหาการนำยาไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่ง อย.ได้มีการติดตามสถานการณ์การขายยาแก้ไออย่างใกล้ชิด และหากพบมีการกระทำฝ่าฝืนกฎหมายจะดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนทุกราย อาจถึงขั้นพักใช้ใบอนุญาตขายยา ทั้งนี้ ขอให้ผู้บริโภคช่วยกัน เป็นหูเป็นตา หากพบเห็นการนำยาไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม ขอให้ร้องเรียนมายัง สายด่วน อย.1556 เพื่อ อย.จะได้ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป