วันที่: 17 สิงหาคม 2554
ที่มา: เว็บไซต์มติชนออนไลน์ (www.matichon.co.th)
ลิงค์: www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1313497910
มติชนออนไลน์ รายงานว่า ก่อนหน้านี้
กรมควบคุมโรคหารือประเด็นปัญหาข้อกฎหมาย ไปยัง สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่อง
การประกาศนโยบายลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของการ
ติดเชื้อ เอชไอวี
ข้อเท็จจริง ได้ความว่า กรมควบคุมโรคได้ส่งร่างประกาศคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาเอดส์ เรื่อง
นโยบายลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของการติดเชื้อ เอชไอวี
มาเพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจสอบ
ความเหมาะสมทางกฎหมาย นั้น
กรมควบคุมโรคมีความประสงค์ขอหารือข้อกฎหมายในนโยบายลดอันตรายจากการใช้
สารเสพติดในยุทธศาสตร์ที่ ๑ การบริการแบบบูรณาการและครบวงจร มาตรการที่ ๒
การพัฒนาและบริการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด ที่เป็นชุดบริการแบบครบวงจร ซึ่งประกอบด้วยชุดบริการทางเลือก
๑๐ รายการ
ข้อ ๒.๓ การสนับสนุนให้ใช้เข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาด
ตามร่างประกาศคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เรื่อง
นโยบายลดอันตรายจากการใช้ ยาเสพติดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของการติดเชื้อ เอชไอวี
ว่าสามารถดำเนินการได้ตามกฎหมายหรือไม่
ล่าสุด คณะกรรมการกฤษฎีกา
(คณะที่ ๑๐) ได้พิจารณาข้อหารือของกรมควบคุมโรค
อันรวมถึงร่างประกาศคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์
เรื่อง นโยบายลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของการติดเชื้อ
เอชไอวี โดยได้รับฟังข้อเท็จจริงจากผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานปลัดกระทรวงและกรมควบคุมโรค) แล้ว
ปรากฏข้อเท็จจริงเพิ่มเติมว่า
มาตรการสนับสนุนให้ใช้เข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาดตามร่างประกาศคณะกรรมการ
แห่งชาติว่าด้วยการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ เรื่อง
นโยบายลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของการติดเชื้อ เอชไอวี
จะดำเนินการโดยใช้วิธีการส่งเจ้าหน้าที่หรืออาสาสมัครไปให้ความรู้กับ
ผู้ติดยาเสพติดที่เสพยาเสพติดโดยวิธีการฉีดเข้าสู่หลอดเลือดเกี่ยวกับการ
ป้องกันโรคติดต่อและแนะนำให้ใช้เข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาด รวมทั้งใช้วิธีการแจกเข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาดให้แก่ผู้เสพยาเสพติด
คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นว่า มาตรา ๕๗
และมาตรา ๕๘
แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ กำหนดห้ามมิให้ผู้ใดเสพยาเสพติดให้โทษ
ซึ่งในการเสพยาเสพติดบางประเภทตามมาตราดังกล่าวจะกระทำด้วยวิธีการใช้เข็ม และอุปกรณ์ฉีดเข้าสู่ร่างกาย ทางหลอดเลือดดำ
ซึ่งในกรณีนี้เข็มและอุปกรณ์ฉีดย่อมจะเป็นอุปกรณ์สำหรับใช้ในการกระทำความ ผิด
หากมีบุคคลใดแจกเข็มและอุปกรณ์ฉีดแก่ผู้ติดยาเสพติดโดยมีเจตนาให้นำเข็มและ
อุปกรณ์ฉีดนั้นไปใช้ในการเสพยาเสพติด การกระทำดังกล่าวถือเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการเสพยาเสพติด
จึงเป็นการสนับสนุนการกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๘๖
นอกจากนี้
วิธีการดังกล่าวยังนำไปสู่ประเด็นปัญหาข้อกฎหมายว่าขัดต่อบทบัญญัติมาตรา ๙๓/๑๔
แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ
(ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๔๕
ที่บัญญัติห้ามมิให้ผู้ใดยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นเสพยาเสพติดให้โทษประเภท ๑
หรือยาเสพติดให้โทษประเภท ๒ โดยฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้อีกด้วย การกำหนดมาตรการและวิธีการในลักษณะเช่นที่หารือมานี้จึงจำเป็นต้องพิจารณา
ถึงความชอบด้วยกฎหมายด้วย
เมื่อพิจารณาถ้อย
คำตามร่างประกาศดังกล่าวในส่วนนโยบายลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติดใน ยุทธศาสตร์ที่ ๑
การบริการแบบบูรณาการและครบวงจร มาตรการที่ ๒
การพัฒนาและให้บริการลดอันตรายจากการใช้ยาเสพติด กรณีบริการลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
เอชไอวี ข้อ ๒.๓ การสนับสนุนให้ใช้เข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาด
คำว่า "การสนับสนุนให้ใช้เข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาด"
หากกระทำการด้วยวิธีการแจกเข็มและอุปกรณ์ฉีดที่สะอาดแก่ผู้ติดยาเสพติดย่อม
เป็นการขัดต่อบทบัญญัติที่ได้กล่าวมาข้างต้นได้
|