วันที่ 12 กรกฎาคม 2554 ที่มา: เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ แนวหน้า ลิงค์: www.naewna.com/news.asp?ID=270199
ผศ.ภญ.ดร.นิยดา เกียรติยิ่งอังศุลี ผู้จัดการแผนงานสร้างกลไกการเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวในงานเสวนาวิชาการเรื่อง"ยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ฉุกคิดก่อนใช้ ป้องกันท้องไม่พร้อมจริงหรือ? : ข้อเท็จจริงที่หลายคนยังไม่รู้"ว่า เนื่องจากที่ผ่านมามีการจัดการประชุมร่วมกันระหว่างฝ่ายวิชาการและบุคลากร ด้านสุขภาพเกี่ยวกับข้อมูลของยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน พบว่า ยังมีหลายกรณีที่น่ากังวล โดยเฉพาะข้อมูลจากร้านขายยาที่พบว่ามีการซื้อยาคุมกำเนิดฉุกเฉินไปใช้ราวปี ละ 8 ล้านแผง หรือราว 2 หมื่นแผงต่อเดือน ซึ่งสะท้อนว่าเป็นการใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อ อีกทั้งยังพบว่า วัยรุ่นนั้นมีความเข้าใจผิดเรื่องการใช้ยาดังกล่าวอย่างมาก เช่น เข้าใจผิดว่ายานี้คุมกำเนิดได้ 100% ทั้งที่ในความเป็นจริงประสิทธิภาพของยาคลาดเคลื่อนได้ คือ อาจแปรผลเป็น 70-90% และหลายคนเชื่อว่า ยาคุมฉุกเฉินสามารถใช้ได้ทุกครั้งหลังมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งในความจริงเพื่อความปลอดภัยไม่ควรที่จะทานเกิน 2 แผงต่อเดือนต่อคน
นอกจากนี้ ยังพบว่าวัยรุ่นบางรายมีปัญหาเรื่องระยะเวลาในการกินยา และมักตีความหมายข้อบ่งชี้การใช้ยาตามที่ฉลากระบุผิดไป เพราะโดยทั่วไปยา 1 แผงจะมีตัวยาอยู่ 2 เม็ด และต้องแบ่งเวลาในการทานให้ถูกต้องตามข้อบ่งชี้ คือ เม็ดแรกทานทันทีหลังมีเพศสัมพันธ์หรืออย่างน้อย 3 วัน เม็ดที่ 2 ทานหลังจากเม็ดแรก 12 ชม.แต่หลายคนเข้าใจคลาดเคลื่อน บางคนก็ทานคู่กัน ขณะที่บางคนทานไม่ตรงต่อเวลา ส่งผลให้ประสิทธิภาพของยาลดลงไปด้วย ดังนั้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงพยามหาทางแก้ไขข้อผิดพลาดและพยายามนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้องออกเผยแพร่แก่ประชาชน
|