search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6528704
การเปิดหน้าเว็บ:9372705
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  “วิทยา” ขีดเส้นห้ามมี “ซูโดฯ” ในสถานประกอบการที่ไม่มีใบอนุญาต
  04 เมษายน 2555
 
 


วันที่: 4 เมษายน 2555
ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000042603


“วิทยา” ประชุมชี้แจงมาตรการควบคุมซูโดอีเฟดรีนแก่ผู้ประกอบการ ขีดเส้นตายให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย หลังจากนั้นหากตรวจพบ ลงดาบทันที โทษสถานหนัก

วันนี้ (4 เม.ย.) ที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กทม. นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) และนายแพทย์ พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.ประชุมชี้แจงมาตรการควบคุมซูโดอีเฟดรีนให้แก่ผู้ผลิต ผู้นำเข้า ตัวแทนจากโรงพยาบาลรัฐ/โรงพยาบาลเอกชน/คลินิก และตัวแทนร้านขายยา ประมาณ 200 คน ภายหลังออกประกาศกระทรวงให้ยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และจะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ วันที่ 4 เมษายน 2555

นายวิทยา กล่าวว่า ภายใน 30 วัน คือ ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ให้สถานพยาบาลที่ไม่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 และไม่ประสงค์จะมีไว้ในครอบครองยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสม เพื่อการบำบัดรักษา และร้านขายยาทุกแห่ง ดำเนินการจัดส่งยาตำรับที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมคืนให้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า

นายวิทยา กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุข ยังได้ออกประกาศฯ เรื่อง กำหนดปริมาณการมีไว้ในครอบครองหรือใช้ประโยชน์ซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 หรือประเภท 2 พ.ศ.2555 โดยสาระสำคัญ คือ กรณีการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วไม่เกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท ส่วนกรณีการครอบครองซูโดอีเฟดรีน คำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์แล้วเกิน 5 กรัม มีโทษตามมาตรา 106 ทวิ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 5 - 20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 - 400,000 บาท ซึ่งการออกประกาศทั้ง 2 ฉบับนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทเรียบร้อยแล้ว

 ทางด้านนายแพทย์ พิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ถูกต้องตามกฎหมาย อย.ได้จัดทำแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการมีไว้ในครอบครอง หรือใช้ประโยชน์จากซูโดอีเฟดรีนสำหรับ ผู้ผลิต/ผู้นำเข้า/โรงพยาบาลรัฐ/โรงพยาบาลเอกชน/คลินิก และร้านขายยา สรุปโดยย่อ ดังนี้

       - กรณีร้านขายยา ให้ส่งคืนยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน เฉพาะสูตรผสมพาราเซตามอล ให้กับผู้ผลิต/ผู้นำเข้า ภายใน 30 วัน นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา หากพ้นกำหนด ตรวจพบว่ามีการครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตร จะมีโทษทั้งจำและปรับดังกล่าวข้างต้น

       - กรณีบริษัทผู้ผลิตเพื่อจำหน่าย ผู้ผลิตที่เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ซูโดอีเฟดรีน) เพื่อผลิตอยู่แล้ว อย.ให้ใช้ได้สำหรับการครอบครองยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนที่เป็นยาสำเร็จรูปด้วย และจะมีการรับคืนยาสูตรผสม เฉพาะสูตรผสมพาราเซตามอล จากร้านขายยาและสถานพยาบาลที่ไม่ประสงค์จะขอรับอนุญาตครอบครองวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พร้อมทั้งต้องรวบรวมปริมาณคงคลังที่ได้รับคืนจากร้านขายยาและสถานพยาบาลทั้งหมด แจ้งกลับมายัง อย.ภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ผู้ผลิตที่ได้รับมอบหมายให้จำหน่ายต้องแก้ไขฉลากให้ถูกต้องตามที่ อย.กำหนด เช่น เพิ่มข้อความ “วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2” ปิดทับเลขทะเบียนตำรับยาเดิม

       - โรงพยาบาลรัฐในสังกัดกระทรวง ทบวง กรม จะได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอใบอนุญาตครอบครอง ส่วนโรงพยาบาลเอกชน/คลินิก ต้องขอใบอนุญาตครอบครองฯ โดยในส่วนภูมิภาคยื่นขออนุญาตได้ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทุกจังหวัด ส่วนกรุงเทพฯ ยื่นขออนุญาตได้ที่ อย. และให้ทุกโรงพยาบาลทั้งรัฐ เอกชน คลินิก ต้องจัดทำบัญชีรับ-จ่าย ยาซูโดอีเฟดรีน ตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้ หรือการเก็บรักษาซูโดอีเฟดรีน สามารถสอบถามมาได้ที่กองควบคุมวัตถุเสพติด อย.หมายเลข 0-2590 -7337, 0-2590-7339 และ 0-2590-7351 หรืออีเมลกองควบคุมวัตถุเสพติด narcotic@fda.moph.go.th