อย.เผย ปริมาณยาซูโดอีเฟดรีน ที่ผู้ผลิตและผู้นำเข้ารับคืนจากร้านขายยา และคลินิกที่ไม่มีใบอนุญาตครอบครองทั่วประเทศ จนถึง 24 เม.ย.55 มีกว่า 3.6 ล้านเม็ด และยาน้ำ อีกกว่า 2,000 ลิตร ซึ่งผู้ผลิตและผู้นำเข้าต้องเก็บรักษายานี้ไว้ จนกว่าจะได้รับมอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นผู้ขายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 (ซูโดอีเฟดรีน) ส่วนร้านขายยาที่ฝ่าฝืนจากกรณีจำหน่ายยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม ซึ่งได้สั่งระงับการขายตั้งแต่ 19 ธ.ค.54 นั้น อย.ได้เสนอคณะกรรมการยา พิจารณาพักใช้ใบอนุญาตขายยา 30-120 วัน รวม 33 ร้าน โดยเริ่มต้นหยุดจำหน่ายตั้งแต่ 1 พ.ค.55 ย้ำ! ร้านขายยาทุกแห่งต้องปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ส่งคืนยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรให้กับผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พ.ค.2555

นพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากนโยบายของ นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาการลักลอบนำซูโดอีเฟดรีนไปใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติด สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่กำหนดให้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้มีมาตรการควบคุมเป็นลำดับขั้น จนล่าสุด ได้ยกระดับการควบคุมซูโดอีเฟดรีน และยาแก้หวัดทุกสูตรที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนผสมเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ดังนั้น ร้านขายยาทุกแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งสถานพยาบาลและคลินิกที่ไม่ประสงค์จะครอบครองยาต้องส่งคืนยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตร ให้กับผู้ผลิตหรือผู้นำเข้า ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 พฤษภาคม 2555 ถึงวันนี้ (24 เม.ย.) มียาเม็ดที่รับคืนจากร้านขายยาและคลินิก 3,614,020 เม็ด ยาน้ำ 2,393.91 ลิตร โดยผู้ผลิตและผู้นำเข้าจะต้องรายงานตัวเลขการรับคืนทั้งหมดมาที่ อย.ภายในวันที่ 3 พ.ค.2555

สำหรับในวันที่ 23 เมษายน 2555 ซึ่ง อย.ได้จัดประชุมคณะกรรมการยา ครั้งที่ 2/2555 เพื่อพิจารณาพักใช้ใบอนุญาตร้านขายยาที่ปล่อยปละละเลย ไม่ให้ความร่วมมือในการดูแลการจัดทำบัญชี และซื้อขายยาซูโดอีเฟดรีนสูตรผสม ซึ่ง อย.ได้ดำเนินการออกตรวจสอบร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด พบร้านขายยาที่ยังมีการจำหน่ายยานี้ ทั้งที่ได้มีการออกประกาศห้ามจำหน่ายมาตั้งแต่วันที่ 19 ธ.ค.54 ก่อนที่จะประกาศให้ยากลุ่มนี้เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 ดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยยา
       
คณะกรรมการยาได้พิจารณาจากข้อมูลที่ อย.เสนอ และมีมติให้พักใช้ใบอนุญาตขายยาใน กทม.จำนวน 27 แห่ง โดยพักใช้ใบอนุญาตเป็นเวลา 30 วัน รวม 9 แห่ง ได้แก่ ร้านเรือนยา, ร้านดรักส์แคร์ 2 เขตดินแดง ร้านรวมเภสัช, ร้านยา หมอยารามฯ, บริษัท ศิรภักดิ์ จำกัด (สาขา 3) และร้าน บี.เอ็ม.ฟาร์มาซี เขตบางกะปิ ร้านเตียเจริญ 14 เขตบางเขน ร้านวุฒิศักดิ์ ฟาร์มาซี สาขาตลาดอมรพันธุ์ (แยกเกษตร) เขตจตุจักร, และร้านขายยา อโรคยา เขตวังทองหลาง พักใบอนุญาตเป็นเวลา 60 วัน รวม 18 แห่ง ได้แก่

บริษัท เฟลก ซอน (ประเทศไทย) จำกัด เขตประเวศ, ร้านชุมชนเภสัช และ ร้านดารณีเภสัช เขตบางขุนเทียน, ร้านยาหนึ่ง เขตบางเขน, บริษัท สยามฟาร์มาซีดรักเซ็นเตอร์ จำกัด เขตจตุจักร, ร้านณัฐพงศ์เภสัช เขตบางบอน, ร้านขายยา เอส พี สาขาตลาดเกรียงไกร (SP Drug Store) และ ร้านขายยา เอส พี สาขาเคหะร่มเกล้า (SP Drug Store) เขตลาดกระบัง, บริษัท ซี.เอส.วี.เมดิซีน จำกัด เขตบางพลัด, ร้านรัตนพรเภสัช และร้านเพ็ญเภสัช เขตบางซื่อ, ร้านธีระเภสัช เขตห้วยขวาง, ร้านแก้วตุ๋ยพานิช และ ร้าน เค.พี.ฟาร์มาซี เขตดินแดง, ร้านธนวัฒน์เภสัช เขตสายไหม, ร้านบ้านยา และ ร้านสวนเภสัช เขตบางกะปิ และห้างขายยา เหรียญทองเภสัช เขตพญาไท รวมทั้งให้พักใช้ใบอนุญาตร้านขายยาอีก 6 แห่ง ที่เป็นเครือข่ายกัน ในอำเภอเมือง จังหวัดราชบุรี เป็นเวลา 120 วัน ได้แก่ ร้านพรเพ็ญเภสัช, ร้านพรเพ็ญเภสัช 2, ร้านพรเพ็ญเภสัช 3, ร้านพรเพ็ญเภสัช 4. ร้านพรเพ็ญเภสัช 5, ร้านพรเพ็ญเภสัช 6 เพราะมีพฤติกรรมซื้อยาแก้หวัดสูตรที่มีส่วนผสมของซูโดอีเฟดรีน โดยไม่มีการจัดทำบัญชี รวมทั้งมีการขายยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียน โดยเริ่มพักใช้ใบอนุญาตทุกแห่งตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.55 เป็นต้นไป

เลขาธิการกล่าวด้วยว่า ยาทุกชนิดที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบ จัดเป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทประเภทที่ 2 แล้ว อย.ขอเตือนร้านขายยาต้องไม่มียาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีนทุกสูตรในครอบครอง และห้ามจำหน่ายยานี้ หากฝ่าฝืนครอบครองซูโดอีเฟดรีนคำนวณปริมาณเป็นสารบริสุทธิ์ไม่เกิน 5 กรัม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท แต่หากเกิน 5 กรัมจะมีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-20 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000-400,000 บาท จึงขอให้ร้านขายยาทุกแห่งปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด