search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6527312
การเปิดหน้าเว็บ:9371247
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  คาดอีก 1 ปี “วัคซีนไข้เลือดออก” ระยะ 3 พัฒนาสำเร็จ
  14 มิถุนายน 2555
 
 


วันที่: 14 มิถุนายน 2555
ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000073064    



ที่ประชุมโรคติดเชื้อสากล ชู ความก้าวหน้าด้านพัฒนาวัคซีนไข้เลือดออก คาด อีก 1 ปี พัฒนาระยะ 3 สำเร็จ
       
นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวในงานประชุมย่อย เรื่อง โรคไข้เลือดออก ในการประชุมวิชาการโรคติดเชื้อสากลชั้นนำ (International Congress on Infectious Diseases : ICID) ว่า ในการประชุมครั้งนี้นอกจากการเร่งรายงานสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกแล้ว ยังได้มีการเผแพร่ความคืบหน้าเรื่องของการพํฒนาวัคซีนไข้เลือดออก หลังจากที่พบว่า มีการระบาดและเผยแพร่ของโรคมานานกว่า 20-30 ปี และเมื่อสภาพแวดล้อมเปลี่ยน เรื่องของวงการแพทย์ ก็ต้องมีการพัฒนาด้วย โดยขณะนี้ที่ทั่วโลกให้ความสำคัญ คือ การพัฒนาวัควีนเพื่อป้องกันโรคไข้เลือดออก 4 สายพันธุ์ โดยขณะนี้ประเทศไทยเองก็มีการร่วมมือด้านการศึกษาวิจัยใน 5 ประเทศใกล้เคียง ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ไทย ฟิลิปปินส์ และ เวียดนาม เร่งรัดพัฒนาวัควีนไข้เลือดออก โดยผ่านการศึกษาวิจัยมาแล้ว 2 ขั้น ภายใต้การสนับสนุนทุนการวิจัย จาก บ.ซาโนฟี่ ซึ่งในระยะที่ 1 และ 2 นั้น มีการศึกษาในอาสาสมัครประมาณ 28,000 ราย เกี่ยวกับประสิทธิภาพของวัคซีนแล้ว พบว่า มีความปลอดภัย และช่วยกระตั้นภูมิคุ้มกันได้ แต่ต้องรอผลยืนยันประสิทธิภาพของวัคซีนที่แน่ชัด อีกครั้งในระยะที่ 3 ซึ่งทั้ง 5 ประเทศ นี้จะมีการทดลองประสิทธิภาพประมาณ 10, 000 ราย คาดว่าต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ปี
       
นพ.ทวี กล่าวด้วยว่า การทดลองวัคซีนดังกล่าวนั้น กลุ่มประเทศ 5 ประเทศ ไม่ได้พัฒนาอยู่กลุม่เดียว แต่มีประเทศแถบละตินอเมริการ เช่น เมกซิโก ก็อยู่ระหว่างการศึกษา วิจัย เช่นกัน แต่สิ่งที่แตกต่าง คือ ประเทศกลุ่มเอเชียนนั้น จะมีการป่วยมากสุดระหว่าง 5-10 ปี ขณะที่ประเทศแถบละตินอเมริกานั้น จะพบผู้ป่วยที่เป็นวัยรุ่นมากกว่า ดังนั้น หากพัฒนาวัคซีนสำเร็จ อาจจะต้องพิจารณาข้อจำกัดในเรื่องอายุที่ควรรับวัคซีนด้วย