search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6515407
การเปิดหน้าเว็บ:9358423
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  “พสิษฐ์” เรียก อภ.แจงสต๊อกวัตถุดิบผลิตพาราฯ 130 ตัน 21 ก.พ.นี้
  18 กุมภาพันธ์ 2556
 
 


วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2556
ที่มา: เดลินิวส์ ออนไลน์
ลิงค์: www.dailynews.co.th/politics/185509



“พสิษฐ์” เรียก อภ.แจงสต๊อกวัตถุดิบผลิตพาราฯ 130 ตัน 21 ก.พ.นี้ ชี้ของบางส่วนตกค้างตั้งแต่ปี 2553 บอกใบ้ปัญหาไม่ได้มีพาราฯ เรื่องเดียว จี้ อย.แจงข้อมูลอนุญาตนำเข้า ด้าน อย.เข้าไปตรวจนับวัตถุดิบที่คลังไปรษณีแล้ว คาด 3 วันเสร็จ เผยบริษัทขายวัตถุดิบให้ อภ.ไม่ได้มีแค่บริษัทย่านบางนา แต่มีบริษัทอื่นนำมาขายต่อให้บริษัทย่านบางนาอีกที

จากกรณี “เดลินิวส์”นำเสนอข่าวโรงงานเภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร (รภท.ศอพท. ) ตรวจวิเคราะห์วัตถุดิบผลิตยาพาราเซตามอลให้กับองค์การเภสัชกรรม (อภ.) หลายล็อตมีปัญหา เช่น ปี 2554-2555 พบวัตถุดิบมีปัญหา 19 ล็อตจาก 2 โรงงานในประเทศจีน ซึ่งมีบริษัทแห่งหนึ่งในประเทศไทยเป็นคนจัดหาให้ แต่ อภ.ยืนยันว่า ไม่ได้นำวัตถุดิบที่มีปัญหามาผลิตยาขอให้ผู้บริโภคมั่นใจ ขณะเดียวกัน อภ.สต๊อกวัตถุดิบเอาไว้ตั้งแต่ปี 2544 กว่า 130 ตันโดยเช่าโกดังเก็บไว้ รมว.สาธารณสุขจึงสั่งให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์สุ่มตรวจคุณภาพ แต่ อภ.ตัดสินใจคืนวัตถุดิบทั้งหมดก่อนเพื่อจบปัญหา

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันนี้ (18 ก.พ. ) นายพสิษฐ์ ศักดาณรงค์ ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ “เดลินิวส์” ว่า ในเวลา 13.00 น. วันที่ 21 ก.พ.ตนจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องคือ ทาง อภ.มาชี้แจงข้อมูลต่างๆ เมื่อถามว่า การคืนวัตถุดิบกว่า 130 ตันถือว่าเรื่องจบหรือไม่ นายพสิษฐ์ กล่าวว่า ถ้ามองว่าจบก็จบ แต่ต้องถามว่าทำไมถึงเพิ่งมาคืน ทำไมไม่บริหารจัดการให้ดีกว่านี้ เก็บไว้ก็โอเว่อร์สต๊อก ต้องถามว่า 1.คุณภาพได้หรือไม่ 2.ทำไมโรงงานที่ อภ.ว่าจ้างให้ผลิตยาพาราเซตามอลจึงไม่อยากได้วัตถุดิบดังกล่าว ดังนั้นแม้จะคืนวัตถุดิบแล้วก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดถึงใครคนนั้นรับผิดชอบ ถ้าเล็กน้อยก็ไม่เป็นอะไร ตนมีหน้าที่หาข้อเท็จจริงนำเสนอ รมว.สาธารสุข

ที่ปรึกษา รมว.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า สำหรับวัตถุดิบในการผลิตพาราเซตามอลนั้นตกค้างมาจากปี 2553 ก็มีเช่นกัน แต่ไม่เยอะมาก วัตถุดิบที่นำเข้ามามากตอนปี 2554 โดยบริษัทนำเข้ามีประมาณ 3-4 บริษัท ซึ่งการอนุญาตนำเข้านั้น อย.ต้องรับรู้ด้วย ดังนั้นจะสอบถาม อย.เช่นกันเรื่องการอนุญาตนำเข้าวัตถุดิบดังกล่าว

“ผมจะตรวจสอบสต๊อกวัตถุดิบพาราเซตามอลกว่า 130 ตันว่ามีจริงหรือไม่ ถ้ามีการคืนจำนวนที่คืนถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ ต้องตรวจสอบซ้ำอีกที ถามว่าทำไมมีอำนาจดำเนินการ ก็เพราะ รมว.สาธารณสุขมีคำสั่งให้ผมปฏิบัติราชการแทนในการควบคุมตรงนี้ อย่างพาราเซตามอลเมื่อผลิตแล้วขายให้กับ รพ.ถ้าเกิดว่าคุณภาพไม่เหมาะสมผมก็มีสิทธิปฏิเสธได้ “นายพสิษฐ์ กล่าวและว่า จริง ๆปัญหาไม่ได้เกิดเฉพาะกรณีพาราเซตามอลเท่านั้น ยังมีเรื่องอื่น ๆอีก เดี๋ยวก็มีอะไรแดงๆ ดำๆ ออกมา

ต่อมาเวลา 17.30 นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  ให้สัมภาษณ์ว่า พอทราบว่าทาง อภ.จะคืนวัตถุดิบกว่า 130 ตัน จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ อย.เข้าไปที่คลังเก็บวัตถุดิบที่บริษัทไปรษณีย์ไทยจำกัด ขอนับจำนวนที่แน่นอน รวมถึงรายละเอียดของล็อตนัมเบอร์วัตถุดิบ คาดว่าคงใช้เวลาประมาณ 2-3 วันน่าจะเสร็จสิ้น  ทั้งนี้ อย.ต้องการทราบจากทาง อภ.ว่าจะคืนวัตถุดิบเมื่อไหร่ บริษัทที่นำเข้าจะเอาไปทำอะไร

เลขาธิการ อย.  กล่าวว่า ทาง อย.ได้รับทราบข่าวจากทาง อภ.เท่านั้น ว่าจะคืนวัตถุดิบผลิตพาราเซตามอลดังนั้นจะให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่ อภ.  เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบคลังยา ให้การเป็นลายลักษณ์อักษรว่าจะมีการคืนวัตถุดิบดังกล่าวจริง   เมื่อถามว่าได้เข้าไปตรวจสอบคลังยาของบริษัทที่นำเข้าหรือยัง นพ.บุญชัย กล่าวว่า เท่าที่ทราบไม่ได้มีบริษัทนำเข้าวัตถุดิบย่านบางนาเพียงรายเดียวที่นำมาขายให้กับ อภ. แต่ยังมีอีก 1 บริษัทที่นำเข้าวัตถุดิบมาขายต่อให้บริษัทย่านบางนาอีกต่อหนึ่ง.