ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2557



          ปักกิ่ง - จีนกล่าวหาผู้บริหารแกล็กโซสมิธไคลน์ ชาวอังกฤษ  สั่งพนักงานติดสินบนแพทย์- โรงพยาบาล หลังสอบสวนนาน 10 เดือน         

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตำรวจในนครฉางชา เมืองเอกของมณฑลหูหนาน ทางภาคกลางของจีน เสร็จสิ้นการสอบสวนคดีที่บริษัทแกล็กโซสมิธไคลน์ (จีเอสเค) บริษัทเวชภัณฑ์ยักษ์ใหญ่ของอังกฤษ ถูกกล่าวหาติดสินบนแล้ว หลังจากใช้เวลาสอบสวนนาน 10 เดือน

          ตำรวจพบว่า นายมาร์ค ไรลี อดีตหัวหน้า คณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท  เป็นคนกดดันให้ทีมงานฝ่ายขาย ติดสินบนโรงพยาบาล แพทย์และหน่วยงานสาธารณสุข ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของบริษัท ในความพยายามที่จะเพิ่มยอดขาย และรายได้ให้แก่บริษัทอย่างผิดกฎหมาย คิดเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

          นายไรลี และผู้บริหารของแกล็กโซ สมิธไคลน์อีกสองคนได้แก่ นายจาง กัวเหว่ย และนาย เจ้า ฮงหยาน ยังถูกกล่าวหาว่า ติดสินบน เจ้าหน้าที่รับผิดชอบด้านอุตสาหกรรมและพาณิชย์ในกรุงปักกิ่งและในนครเซี่ยงไฮ้ด้วย ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจฉางชา ได้ส่งสำนวนสอบสวนให้กับอัยการแล้ว

          เมื่อก.ค.ปีที่แล้ว ทางการจีนได้จับกุมผู้บริหารชาวจีน 4 คนของบริษัทแกล็กโซ สมิธไคลน์ ฐานต้องสงสัยว่าพนักงานได้ใช้เงินเกือบ 500 ล้านดอลลาร์ จ่ายใต้โต๊ะ เพื่อเพิ่มยอดขาย โดยใช้บริษัทท่องเที่ยวและบริษัทที่ปรึกษาเป็นตัวถ่ายโอนเงินสินบนเป็นเวลาหลายปี ส่วนแพทย์จะได้ค่านายหน้า 7-10 % จากยอดจำหน่ายยาที่พวกเขาสั่งจ่าย

          แกล็กโซสมิธไคลน์ ประกาศในเวลานั้นว่า พร้อมให้ความร่วมมือกับการสอบสวนของรัฐบาลจีน พร้อมทั้งขอโทษ กรณีที่พนักงานกระทำการนอกการควบคุมภายในของบริษัท แต่ปฏิเสธว่าจำนวนเงินที่ถูกกล่าวหาจ่ายเป็นสินบน ไม่ได้สูงอย่างที่กล่าวหา

          นายไรลี เดินทางออกจากจีน หลังจากถูกกักขังช่วงหนึ่ง และก่อนการสอบสวน จะเริ่มต้น  แต่ในเวลาต่อมาได้เดินทางกลับจีนอีกครั้ง เพื่อให้ความร่วมมือกับการสอบสวน และถูกสั่งห้ามเดินทางออกจากจีนอีก

          ผู้ต้องสงสัยพัวพันคดีนี้ มีทั้งสิ้น 46 คน และมีพนักงานท้องถิ่นหลายสิบคนของบริษัทถูกจับกุมในคดีนี้

          เมื่อปี  2555 จีเอสเค เคยเจอคดีลักษณะคล้ายกันนี้ และต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 9.46 หมื่นล้านบาท ฐานขายยาที่ไม่ผ่านการอนุมัติจากสำนักงานอาหารและยา (เอฟดีเอ) ของสหรัฐ รวมถึงไม่รายงานข้อมูลเรื่องความปลอดภัย ในการใช้ยาแก้โรคเบาหวานแก่เอฟดีเอ และติดสินบนแพทย์ให้จ่ายยาของบริษัทด้วย