ไทยโพสต์ : วันที่ 20 มกราคม 2554
"จุรินทร์"
เตรียมหารือ สปสช.เร่งใช้ "เกณฑ์ใหม่" CD4
ต่ำกว่า 350 มีสิทธิ์ได้รับยาเอดส์ ในวันที่ 28 มี.ค.นี้ ชี้การเข้าถึงยาเร็วขึ้นจะทำให้การรักษาได้ผลดีกว่าเดิม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
(สธ.) กล่าวถึงแนวทางการให้ยารักษาโรคเอดส์ตามเกณฑ์ที่กรมควบคุมโรคปรับใหม่ ซึ่งขณะนี้
สปสช.ยังไม่ได้นำเกณฑ์ดังกล่าวไปปรับใช้กับผู้ป่วยในโครงการรักษาฟรีว่า การปรับมาตรฐานการรักษาโรคเอดส์ของกรมควบคุมโรคนี้
การที่หน่วยงานใดจะนำไปใช้ก็เป็นข้อพิจารณาของแต่ละองค์กร ตนในฐานะที่เป็นประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
จะขอให้ สปสช.รับประเด็นไปประกอบการพิจารณาต่อไปว่า
ในขณะนี้มีความจำเป็นหรือสามารถปฏิบัติให้เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดใหม่ของกรมควบคุมโรคหรือไม่
มีข้อจำกัดในเรื่องงบประมาณในปี พ.ศ.2554 หรือไม่
และหากเห็นด้วยว่าควรจะมีการปรับเกณฑ์จะปรับได้เมื่อไหร่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้ป่วยเอดส์ได้เข้าถึงยาหรือเข้าถึงการรักษาที่มีมาตรฐานสูงขึ้น
และรวดเร็วขึ้น หากระดับเม็ดเลือดขาว (CD4)
ลดต่ำลงแค่ 350 ก็สามารถให้รับยาได้ทันที
แทนที่จะให้ผู้ป่วยโรคเอดส์มีเม็ดเลือดขาวลดต่ำกว่า 200
ด้าน นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า
มาตรฐานการรักษาโรคเอดส์เดิมที่ใช้อยู่ ผู้ที่ติดเชื้อเอดส์จะได้รับการตรวจเม็ดเลือดขาว ถ้าพบว่าต่ำกว่า
200 จึงจะมีสิทธิรับยารักษาฟรีตามโครงการของ สปสช. ต่อมาในภายหลังมีการวิจัยต่างๆ
พบว่า หากผู้ป่วยได้รับยาเร็วขึ้นจะช่วยให้สุขภาพดีขึ้น กรมควบคุมโรคจึงปรับแนวทางการเริ่มให้ยาต้านไวรัสเมื่อปริมาณเม็ดเลือดขาวต่ำกว่า
350 เป็นแนวทางของประเทศ
แต่หน่วยงานไหนจะนำไปใช้ก็ขึ้นอยู่กับความเหมาะสม โดยประเมินแล้วจะมีผู้ป่วยสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำกว่า
350 ประมาณ 10,000
คน จากผู้รับยาเดิมที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำกว่า 200 ประมาณ 200,000
คน
"ถ้าคนไข้เม็ดเลือดขาวต่ำกว่า
200 แสดงว่าภูมิต้านทานร่างกายต่ำมากแล้ว โอกาสที่จะติดเชื้อเกิดโรคแทรกซ้อนต่างๆ ก็มีมากขึ้น
ดังนั้นหากรอให้ภูมิต้านทานต่ำจนกระทั่งป่วยแล้ว
การรักษาก็ยุ่งยากและสิ้นเปลืองมากขึ้น การให้ยาต้านไวรัสเร็วจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการรักษาลดลงไปได้มาก"
นพ.มานิตกล่าว
นายอภิวัฒน์ กวางแก้ว ประธานเครือข่ายผู้ติดเชื้อเอชไอวี กล่าวว่า ในวันที่
28 มี.ค.ทางอนุกรรมการของ
สปสช.ที่ซึ่งมีเครือข่ายร่วมเป็นกรรมการ
จะร่วมกันหารือเกี่ยวกับการใช้ยาในหลักเกณฑ์ใหม่ เนื่องจากการได้รับยาเร็วย่อมเป็นผลดีต่อคุณภาพของผู้ติดเชื้อ
แต่ต้องมีการเตรียมคนเข้าสู่การรักษา เพื่อคุณภาพที่ดีขึ้น
ซึ่งจะมีการผลวิจัยทางวิชาการที่เกี่ยวข้องมาร่วมหารือกันเพื่อเตรียมดำเนินการให้เป็นไปตามทิศทางการดูแลผู้ติดเชื้อของประเทศไทยต่อไป
..
|