เดลินิวส์ 12 พ.ค. 2554
เมื่อวันที่ 11 พ.ค. นพ.สัมพันธ์
คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือลงวันที่ 10 พ.ค. ถึงอธิบดีกรมบัญชีกลาง กรณีที่มีหนังสือมายังแพทยสภาขอให้พิจารณาประสิทธิภาพของการใช้ยากลูโคซามีนเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาสิทธิในการเบิกจ่ายของ
สิทธิสวัสดิการข้าราชการ โดยกรณีนี้แพทยสภาได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาศึกษาทบทวน
รับรองประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของยาแบบองค์รวม เพื่อพิจารณาศึกษา ทบทวน รับรองประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของยากลูโคซามีน
ได้ข้อสรุปว่า
1. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้ขึ้นทะเบียนกลูโคซามีนเป็นยา
2. หลักฐานงานวิจัยของกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับกลูโคซามีน ยังไม่เป็นที่ยอมรับกว้างขวาง
ซึ่งมีการตั้งค่าการวิจัย
ที่สูงกว่าความเป็นจริง และมีการเปรียบเทียบกับยาหลอกอาจจะไม่เป็นมาตรฐานที่ถูกต้อง
รวมทั้งผู้ทำวิจัยยังไม่เป็นที่ยอมรับหรืออาจมีผลประโยชน์ทับซ้อน
3. ยากลูโคซามีนสามารถใช้ได้ผลกับผู้ป่วยที่มีอาการของโรคข้อเข่าเสื่อมในระยะ
กลางและใช้ในระยะสั้น รวมถึงยากลูโคซามีนไม่ใช่เป็นยาป้องกันข้อเข่าเสื่อม
4. ยากลูโคซามีนมีข้อจำกัดในการใช้
ควรมีข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนในการใช้ยา โดยสามารถใช้ยาช่วงแรก 3 เดือน หากไม่ได้ผลให้หยุดยา หากได้ผลให้ใช้ต่อจนถึง 6 เดือนแล้วจึงหยุดยา และ
5. มีงานวิจัยขององค์กรวิชาชีพนานาชาติทั้งที่ได้ผลและไม่ได้ผลเกี่ยวกับการใช้
ยากลูโคซามีน
นพ.สัมพันธ์ กล่าวต่อว่า
ข้อเสนอเชิงนโยบายคือ
1. กรณีที่มีการทุจริตเกี่ยวกับเรื่องยา เห็นควรให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยเคร่งครัด
2. ให้กำหนดแนวทาง วิธีการและข้อบ่งชี้ที่ชัดเจนในการจ่ายยากลูโคซามีน
หรือกลุ่มยาที่มีราคาแพง เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการใช้ยาสูงสุด
3. เห็นควรให้มีการปรับเปลี่ยนนโยบายจ่ายตรง โดยเฉพาะเรื่องของการจ่ายยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติให้งดการเบิกจ่ายตรง
โดยให้สำรองจ่ายไปก่อนแล้วนำหลักฐานไปเบิกกับหน่วยงานต้นสังกัดได้
หรือกำหนดเพดานที่สามารถเบิกจ่ายตรงได้ โดยมิต้องสำรองจ่าย
4. แพทยสภาเป็นองค์กรวิชาชีพที่มีหน่วยงานต่าง ๆ อยู่ภายใต้กำกับดูแลและมีเครือข่ายทางวิชาการที่พร้อมจะให้คำปรึกษาและข้อ
เสนอแนะต่อกรมบัญชีกลางเกี่ยวกับดุลพินิจในการใช้ยาทุกกลุ่ม
5. ให้มีกระบวนการให้ความรู้แก่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทุกระดับ ทุกสถาบันในเรื่องการใช้ยากลูโคซามีนให้ถูกต้องเหมาะสม
และเป็นไปตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนดโดยแพทยสภา หรือราชวิทยาลัย
6. มาตรการงดการเบิกจ่ายกลูโคซามีนของกรมบัญชีกลาง
มีผลกระทบต่อสิทธิข้าราชการ จึงสมควรมีการปรึกษาหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ และ
7. การสร้างความร่วมมือ ร่วมใจ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพที่ตรงที่สุดในการใช้ยาและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อ
ประชาชน.
|