search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6521716
การเปิดหน้าเว็บ:9365444
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  เสนอปิดวอร์รูม อี.โคไล สธ.เล็งยกเครื่องความปลอดภัยทางอาหาร
  06 กรกฎาคม 2554
 
 


วันที่: 6 กรกฎาคม 2554
ที่มา: www.manager.co.th
ลิงค์: http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000083008

สธ.เล็งยกเครื่องความ ปลอดภัยทางอาหารป้องกันโรคอุจจาระร่วงภายในประเทศ  เสนอปิดวอร์รูม โรคอี.โคไล โอ 104   หากสัปดาห์หน้าสถานการณ์ในยุโรปดีขึ้น

วันนี้ (6 ก.ค.) นพ.สุวรรณชัย  วัฒนายิ่งเจริญชัย  รองอธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวภายหลังการประชุมวอร์รูมโรคจากเชื้อแบคทีเรีย อี.โคไล ชนิดรุนแรง โอ 104 ว่า ขณะนี้สถานการณ์โรคจากเชื้อแบคทีเรีย อี.โคไล ชนิดรุนแรง โอ 104 ในยุโรป พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง  ส่วนประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยด้วยโรคดังกล่าว จะมีเพียงผู้ป่วยเฝ้าระวัง 2 คน ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์เชื้อแล้ว พบว่า ไม่ใช่ป่วยจากเชื้ออี.โคไล ชนิดรุนแรง โอ 104 อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังในคนยังคงมาตรการเดิม ได้แก่ แจกเอกสารคำแนะนำบนเครื่องบินเที่ยวบินที่มาจากยุโรป เฝ้าระวังผู้ป่วยอุจจาระร่วงถ่ายเป็นเลือด หรือมูกเลือดในโรงพยาบาล  โดย เฉพาะใน 8 จังหวัดท่องเที่ยว ส่วนมาตรการด้านอาหาร สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ลดความเข้มงวดมาตรการเฝ้าระวังผัก ผลไม้ สด และเนื้อสัตว์ ที่นำเข้าจากยุโรป  เนื่องจากที่ผ่านมาจากการเฝ้าระวังเข้ม พร้อมสุ่มตรวจไม่พบเชื้ออี.โคไล ชนิดรุนแรง โอ 104 อีกทั้งข้อมูลจากยุโรป บ่งชี้ว่า เมล็ดพันธุ์ ถั่ว อาจมีการปนเปื้อน จึงได้ประสานงานกับกรมศุลกากร และ กระทรวงเกษตรฯ เพื่อเฝ้าระวังเมล็ดพันธุ์พืชจากยุโรป ซึ่งข้อมูลเบื้องต้นทราบว่ามีการนำเข้าน้อยมาก

รองอธิบดี กรม คร.กล่าวด้วยว่า   ด้านกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์  ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงผลการตรวจตัวอย่างที่หลายหน่วยงานส่งมาให้ตรวจหา เชื้ออี.โคไล  ชนิดรุนแรง  โอ 104  รวมทั้งสิ้น  260  ตัวอย่าง  ไม่พบเชื้อดังกล่าว  ส่วนศูนย์ปฏิบัติการความปลอดภัยด้านอาหารกระทรวงสาธารณสุข  แจ้งให้ทราบว่า  ได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลกให้ประเทศสมาชิก  จัดตั้งคณะกรรมการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยทางอาหารด้านสาธารณสุข  ทั้ง 3 ด้าน  ได้แก่  ปลอดภัยจากสารเคมี  ปลอดภัยจากจีเอ็มโอ  และปลอดภัยจากจุลินทรีย์ต่างๆ  ซึ่งเรื่องนี้ต้องมีหน่วยงานนอกกระทรวงสาธารณสุข เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก  นอกจากนี้ ในปีงบประมาณ2555  กระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการในเรื่องแหล่งที่มาของอาหารปนเปื้อน  และเครือข่ายดำเนินงานเกี่ยวกับการปนเปื้อนของอาหาร

ที่ประชุมจะถือโอกาสการป้องกันโรคจากเชื้ออี.โคไล  ชนิดรุนแรง โอ 104  ต่อยอดไปเป็น  โครงการอาหารปลอดภัยเพื่อสุขภาพดี เพื่อลดการปนเปื้อน และป้องกันโรคอุจจาระร่วง  ซึ่งคนไทยไม่ค่อยกลัวโรคนี้  และหน่วยงานต่างๆ  ไม่ค่อยตนักถึงความสำคัญ  ทั้งที่จากการเฝ้าระวังโรคพบผู้ป่วยโรคอุจจาระร่วงถึงปีละ  1  ล้านรายเศษ  เสียชีวิต 45 ราย  รวมทั้งประเทศต้องสูญเสียทางเศรษฐกิจปีละไม่ใช่น้อย  และในสัปดาห์หน้า  ถ้าสถานการณ์ในยุโรปดีขึ้น  จะเสนอปิดวอร์รูมโรคจากเชื้อแบคทีเรีย  อีโคไล  ชนิดรุนแรง  โอ 104  และจะถ่ายทอดภารกิจและการดำเนินงานของวอร์รูมลงสู่การทำงานในระบบปกติต่อไปรองอธิบดี กรม คร.กล่าว