search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6529166
การเปิดหน้าเว็บ:9373183
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  วัคซีนไข้หวัดสำเร็จ ใช้เฉพาะช่วงระบาด
  04 สิงหาคม 2554
 
 


วันที่:

 

แพทย์เผยพัฒนาวัคซีนไข้หวัดใหญ่สำเร็จ ผ่านการอนุมัติจาก อย.แล้ว แต่มีเงื่อนไขใช้เฉพาะเกิดการระบาดเท่านั้น ส่วนวัคซีนป้องกันไข้หวัดนก H5N1 อีก 2 เดือนทดลองในคน คาดปี 57 สามารถผลิตวัคซีนไข้หวัดได้ทุกสายพันธุ์

 นพ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม (อภ.) เปิดเผยว่า ภายหลังจากเกิดการระบาดของไข้หวัดใหญ่ 2009 ประเทศไทยเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่องค์การอนามัยโลก (WHO) สนับสนุนให้ผลิตวัคซีนป้องกันโรคดังกล่าวขึ้นมา และได้รับหัวเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่มาจากประเทศรัสเซีย ที่จากเดิมจะไม่ยอมถ่ายทอดเทคโลยีดังกล่าวให้กับที่ใดมาก่อน ซึ่งเราเห็นว่าการพัฒนาวัคซีนชนิดเชื้อเป็นมีข้อดี 3 ข้อ คือ 1.สามารถผลิตได้เร็วกว่าชนิดเชื้อตายประมาณ 10-30 เท่า 2.สามารถนำไปใช้ได้ง่ายเพราะเป็นการพ่นทางจมูก และ 3.จากการศึกษาวิจัยทั่วโลกพบว่าได้ผลในการป้องกันโรคไม่แตกต่างจากวัคซีน ชนิดเชื้อตาย จึงดำเนินการพัฒนาต่อจนประสบผลสำเร็จ

 ประธานบอร์ด อภ.กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ วัคซีนดังกล่าวได้รับการอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้วเมื่อวันที่ 12 ก.ค.ที่ผ่านมา ให้สามารถผลิตได้แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องผลิตใช้เฉพาะในกรณีที่เกิดการระบาดใหญ่ที่เชื้อโรคมีความรุนแรงเท่านั้น ส่วนกรณีที่ใช้ทั่วไปยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้องค์การเภสัชกรรมได้ผลิตหัวเชื้อชนิดเข้มข้นเอาไว้สำรองไว้ใช้ในยามจำ เป็นกว่า 1 แสนโดส พร้อมกันนี้ยังมีความพยายามจะพัฒนาผลิตวัคซีนไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงมากที่สุดอีกด้วย ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 2 เดือนจะสามารถทำการทดลองในคนได้

 นพ.วิชัยกล่าวอีกว่า สำหรับความคืบหน้าในการตั้งโรงงานผลิตวัคซีน ขณะนี้ได้รับการสนับสนุนจากมหาวิทยาลัยศิลปากร ในการใช้ห้องปฏิบัติการในการผลิตวัคซีนชนิดเชื้อเป็น ส่วนการผลิตวัคซีนชนิดเชื้อตายที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลจำนวน 1,411.7 ล้านบาท ก่อตั้งโรงงานที่ อ.ทับกวาง จ.สระบุรี พร้อมกันนี้กระทรวงสาธารณสุขของประเทศญี่ปุ่น ยังได้ส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนจากบริษัทคาเคทสุเกน (Kaketsuken) มาเป็นที่ปรึกษาให้กับประเทศไทยด้วย คาดว่าภายในปี 2557 ประเทศไทยจะสามารถผลิควัคซีนที่สามารถป้องกันไข้หวัดได้ทุกสายพันธุ์ได้ รวมทั้งสามารถผลิตเผื่อแผ่ให้กับประเทศเพื่อนบ้านบางประเทศได้