search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6529171
การเปิดหน้าเว็บ:9373188
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  นายกสมาคมนรีเวช เสนอรัฐบาลบรรจุ “เอชพีวี” เป็นวัคซีนพื้นฐาน
  08 สิงหาคม 2554
 
 


วันที่: 8 สิงหาคม 2554
ที่มา: เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์ (www.manager.co.th)
ลิงค์: http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000098086

 

นายกสมาคมนรีเวช แนะรัฐบาลบรรจุวัคซีนป้องกัน เอชพีวีเป็นวัคซีน พื้นฐาน เชื่อช่วยลดอัตราการป่วย ย้ำป้องกันดีกว่ารักษา ฝากว่าที่ รมว.สธ.พิจารณา

ศ.นพ.ชัยยศ ธีรผกาวงศ์ นายกสมาคมมะเร็งนรีเวชไทย กล่าวว่า เดือน ส.ค.นี้เป็นเดือนแห่งการรณรงค์เรื่องการป้องกันมะเร็งปากมดลูก ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือกับโรงพยาบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้มีการเร่งสร้างความตระหนักในการตรวจคัดกรองและวิธีการ ป้องกันที่เหมาะสมด้วย ซึ่งนอกจาการเข้าตรวจคัดกรองในหาเชื้อ เอชพีวี(HPV) ด้วยวิธีต่างๆซึ่งทำในประชาชนที่มีอายุเป็นกลุ่มสี่ยงแล้ววิธีที่ป้องกันได้ ดีอีกหนทาง คือ การฉีดวัคซีน ป้องกันเชื้อเอชพีวี 16 และ 18 ซึ่งเป็นชนิดที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูกมากกว่าชนิดอื่น ถึง 70 % และที่สำคัญไม่จำเป็นต้องฉีดเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่อายุมากกว่า 30 ปี เท่านั้น แต่สามารถให้ได้ในเด็กที่เป็นวัยรุ่น ซึ่งขณะนี้มีทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย แต่สำหรับตนนั้น คิดว่าเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว เนื่องจากการป้องกันย่อมดีกว่าการรักษา โดยรัฐบาลน่าจะมีการบรรจุเป็นวัคซีนชนิดดังกล่าวเป็นวัคซีนพื้นฐาน เพื่อสร้างภูมิคุมกันที่ดีแก่ประชาชน จะได้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการรักษา และที่สำคัญน่าจะลดจำนวนผู้ป่วยได้

ศ.นพ.ชัยยศ กล่าวด้วยว่า ในการซื้อวัคซีนมาใช้นั้นจะให้คุ้มค่าก็ต้องซื้อในจำนวนมากเพื่อให้ราคาต่ำ ลง เพราะราคาปกติขายเป็นชุด ๆ ละ 3 เข็ม ราคาราว 7,000 บาท โดยขณะนี้ประเทศมาเลเซีย สั่งซื้อเพื่อบริการประชาชาชน โดยซื้อในราคา ชุดละ 2,000 บาท แต่หากไทยจะนำเข้ามาก็น่าจะตกที่ราคาชุดละกว่า 1,000 บาท เนื่องจากไทยต้องมีประชากรมากกว่ามาเลเซียราว 1 เท่า ซึ่งอยากฝากให้รัฐบาลใหม่พิจารณาและหากใครเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า การกระทรวงสาธารณสุข (รมว.สธ.) ก็อยากให้เห็นความสำคัญของเรื่องนี้ด้วย เนื่องจากมะเร็งปากมดลูกเป็นโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนไทยมาโดยตลอด

ไม่อยากให้มองแค่ว่า เรื่องความคุ้มค่าทางการเงิน แต่อยากให้มองถึงปัญหาสุขภาพของประชาชนเป็นหลัก และหากบริการวัคซีนควบคู่กับการตรวจคัดกรองก็จะยิ่งดี เพราะการตรวจคัดกรองปัจจุบันเริ่มที่ราคาราว 2,000 บาท บวกกับค่าวัคซีนด้วยไม่น่าจะแพงมากนัก ต่างจากค่ารักษาที่ตกรายละไม่ต่ำกว่า 40,000 บาทศ.นพ.ชัยยศ กล่าว