search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6534034
การเปิดหน้าเว็บ:9378515
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  สธ.ยัน ไข้หวัดนก ในไทยยังไม่กลายพันธุ์
  30 สิงหาคม 2554
 
 


วันที่: 30 สิงหาคม 2554
ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์ (www.thairath.co.th)
ลิงค์: www.thairath.co.th/content/edu/198086

สธ. ยันเชื้อไข้หวัดนกในไทย ยังไม่กลายพันธุ์ ย้ำ "โอเซลทามิเวียร์" ยังใช้ได้ผลดี พร้อมสั่งกำชับกรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด...

เมื่อวันที่ 30 ส.ค. นายวิทยา บุรณศิริ รมว.สาธารณสุข เปิดเผยกรณีที่องค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติหรือเอฟเอโอ (FAO) ได้เตือนประเทศต่างๆ ให้เฝ้าระวังโรคไข้หวัดนก หรือเชื้อไวรัสเอช 5 เอ็น 1 (H5N1) ที่มีการกลายพันธุ์ในจีนและเวียดนาม และมีปัญหาเชื้อดื้อยา และวัคซีน อาจเกิดการแพร่ระบาดในแถบเอเชียและประเทศอื่นๆ ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งไทยอาจเสี่ยงได้รับผลกระทบจากการระบาดโรคดังกล่าว จากประเทศเวียดนามและกัมพูชาได้ ว่า กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกรมปศุสัตว์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ติดตามสถานการณ์โรคไข้หวัดนกในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ยังไม่พบมีสัตว์ปีกและคนติดเชื้อไข้หวัดนก ติดต่อกันมาเกือบ 5 ปีแล้ว อย่างไรก็ตามเพื่อความไม่ประมาท และขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในช่วงฤดูฝนต่อเนื่องกับฤดูหนาว สภาพอากาศเย็น ก็ได้มอบให้กรมควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด และเครือข่ายทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคในพื้นที่ ติดตามสถานการณ์ในต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และสั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศเฝ้าระวังการเจ็บป่วยในคน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของกรมปศุสัตว์ที่เฝ้าระวังสัตว์ปีกต่อเนื่อง

ด้าน นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาเชื้อไวรัสไข้หวัดนกดื้อยา ที่องค์การเอฟเอโอเป็นห่วงนั้น ในประเทศไทยยังไม่มีปัญหา ซึ่งเชื้อไวรัสโดยธรรมชาติ จะมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ได้ตามปกติอยู่แล้ว ยาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ ที่กระทรวงสาธารณสุขไทย เคยใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อไข้หวัดนกเมื่อ 5 ปีก่อน และใช้รักษาผู้ป่วยที่ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ยังใช้ได้ผลดี อย่างไรก็ตาม ขอแนะนำให้ประชาชนป้องกันโรคไข้หวัดนกไว้ก่อน หากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ อย่าใช้มือเปล่าสัมผัสซากสัตว์ และห้ามนำซากสัตว์ปีก หรือสัตว์ปีกที่มีอาการกำลังป่วย เช่น มีอาการซึมหงอย ขนฟู เหนียงบวมคล้ำ มีน้ำมูกหรือขี้ไหล มาชำแหละเป็นอาหารอย่างเด็ดขาด ขอให้นึกถึงสัตว์ปีกอาจป่วยเป็นไข้หวัดนก ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ทันที เพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ และหากประชาชนมีอาการไข้หลังสัมผัสสัตว์ปีกทุกชนิด ขอให้รีบพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการสัมผัสสัตว์ปีกให้แพทย์ทราบ เพื่อการรักษาที่รวดเร็วและได้ผล

สำหรับสถานการณ์โรคไข้หวัดนก ในปี 2554 ล่าสุดองค์การอนามัยโลกรายงานตั้งแต่วันที่ 1-30 มิถุนายน 2554 มีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคไข้หวัดนก 9 ราย ใน 3 ประเทศ ทุกรายมีประวัติสัมผัสสัตว์ปีก ประกอบด้วย อียิปต์ 7 ราย เสียชีวิต 5 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย รักษาหายเป็นปกติ และกัมพูชา 1 ราย เสียชีวิต โดยยอดผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกทั่วโลก ตั้งแต่ พ.ศ.2546 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2554 มีผู้ป่วยยืนยันรวมทั้งหมด 562 ราย เสียชีวิต 329 ราย ใน 15 ประเทศ