วันที่: 23 กันยายน 2554
ที่มา: เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000121127
คณะทำงานด้านวิชาการกลูโคซามีน ถูกแขวนลอย ไร้บทบาทหลังตั้งรัฐบาลใหม่
ส่งผลให้ยากลูโคซามีน ไม่คืบ
เมื่อวันที่ 22 กันยายน นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา
หนึ่งในคณะทำงานด้านวิชาการทางการแพทย์
ภายใต้คณะกรรมการบริหารระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลาง
กระทรวงการคลัง
กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการศึกษาข้อมูลยาเพื่อใช้ในการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม (กลูโคซามีน)
ว่า จากการศึกษาคณะทำงานด้านวิชาการ ได้มีข้อสรุปถึงกรณีดังกล่าวว่า
ความคุ้มค่าของยาดังกล่าวในการใช้รักษาโรค พบว่า แทบไม่มีประโยชน์ใดๆ เลย
แต่คณะทำงานฯไม่สามารถนำเสนอต่อกรมบัญชีกลางได้ เนื่องจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล
ทำให้หน้าที่ของคณะทำงานฯ สิ้นสุดลงโดยปริยาย ทั้งนี้ นอกจากคณะทำงานฯ
ยังมีคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ ซึ่งเป็นหน้าที่ของแพทยสภา
และราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ ทำงานร่วมกันเพื่อให้ได้ข้อสรุป
แต่ไม่ทราบว่ามีการสรุปอย่างไร
“ขณะนี้ถือว่าเรื่องดังกล่าวไม่มีความคืบหน้าใดๆ
ซึ่งเป็นหน้าที่ของกรมบัญชีกลาง ต้องนำรายชื่อคณะทำงาน และคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจ
เสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อีกครั้ง เพื่อให้มีอำนาจตามกฎหมาย
และนำผลการศึกษาดังกล่าวเสนอต่อกรมบัญชีกลางเพื่อพิจารณาแนวทางในการ ออกคำสั่ง
การใช้ยาเพื่อรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมต่อไป” นพ.ณรงค์ศักดิ์
กล่าว
นพ.ณรงค์ศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องการออกประกาศชั่วคราวของกรมบัญชีกลาง
ในการเบิกจ่ายยากลูโคซามีนนั้น แน่นอนว่า ทุกฝ่ายรับทราบ
แต่การเสนอข้อมูลวิชาการทุกอย่างเข้าสู่กรมฯ
คณะทำงานที่ถูกตั้งขึ้นมาจะไม่สามารถดำเนินการได้เอง หาก ครม.ยังไม่รับทราบและยืนยัน
ดังนั้น คณะทำงานจึงเป็นเหมือนสุญญากาศในขณะนี้
ซึ่งเรื่องจะเดินหน้าต่ออย่างไรตนก็ไม่อาจให้คำตอบได้
ด้าน นพ.สัมพันธ์ คมฤทธิ์ เลขาธิการแพทยสภา กล่าวว่า
สำหรับเรื่องการเบิกจ่ายยาข้อเข่าเสื่อมตามมติของกรมบัญชีกลางนั้น คงเป็นแนวทางที่สิ้นสุดแล้ว
และหากจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ก็ไม่น่าใช่ตอนนี้
ส่วนที่เคยมีข่าวว่าตั้งคณะอนุกรรมการเฉพาะกิจทบทวนเรื่องนี้
เท่าที่ทราบไม่มีการเรียกประชุม คงไม่มีการหารือประเด็นดังกล่าวแล้ว
แต่เชื่อว่าในอนาคตจะเป็นการหารือประเด็นยาตัวอื่นมากกว่า
อนึ่ง เงื่อนไขที่กรมบัญชีกลางประกาศใช้ชั่วคราว
โดยหลักสำคัญในการพิจารณาของแพทย์ผู้สั่งยา ประกอบด้วย 1.กลุ่มยากลูโคซามีน
มีความจำเป็นสำหรับผู้ป่วยโรคข้อเสื่อมในบางกลุ่มเท่านั้น
และต้องเป็นแพทย์ทางออร์โธปิดิกส์ แพทย์ไขข้ออักเสบ และแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู 2.การให้ใช้ยาที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายจะต้องมีการกำหนดแนวเวชปฏิบัติ คือ
มีเงื่อนไขข้อบ่งชี้ และระยะเวลาในการใช้ยา
ซึ่งตามแนวปฏิบัติบริการดูแลรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม พ.ศ.2553 ของราชวิทยาลัยแพทย์ออร์โธปิดิกส์แห่งประเทศไทย
คือ ไม่ให้ใช้ ในการป้องกันข้อเสื่อม แต่ให้ใช้ยาในช่วงแรก 3 เดือน แล้วประเมินผลการรักษาว่าผู้ป่วยให้การตอบรับการใช้ยาหรือไม่
หากอาการดีขึ้นก็ให้ใช้ต่อจนถึง 6 เดือน แล้วหยุดยา
แต่หากรายใดประเมินผลจากการใช้ยาแล้ว 3 เดือน
ไม่ดีขึ้นก็ให้หยุดการใช้ยา
|