search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6515488
การเปิดหน้าเว็บ:9358510
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  แพทย์เตือนไทยวิกฤตให้จับตาเชื้อดื้อยา“ซุปเปอร์บั๊ก”
  04 พฤษภาคม 2554
 
 


วันที่: 4 พฤษภาคม 2554
ที่มา: เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก
ลิงค์: www.komchadluek.net/detail/20110504/96708/แพทย์เตือนไทยวิกฤตให้จับตาเชื้อดื้อยา“ซุปเปอร์บั๊ก.html

ประชุมวิชาการนานาชาติ แก้ปัญหาเชื้อดื้อยา วันที่สอง คึกคัก แพทย์ เตือน ไทยวิกฤตให้จับตาเชื้อดื้อยา “ซุปเปอร์บั๊ก” หวั่นถ้าระบาดเหมือนอินเดีย จะส่งผลกระทบทัวร์สุขภาพ และการรักษาพยาบาลของต่างชาติในไทย ด้านเครือข่ายพ่อแม่ชี้ ลูกวัยรุ่นแห่ซื้อยาแก้สิวอักเสบกินพร่ำเพรื่อ-เพาะเชื้อดื้อยา

เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่โรงแรมทวินทาวเวอร์ กรุงเทพฯ ในการประชุมวิชาการระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ 2 เรื่อง การจัดการปัญหาเชื้อดื้อยา ซึ่งจัดโดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ แผนงานสร้างกลไกเฝ้าระวังและพัฒนาระบบยา (กพย.) คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยการสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และองค์กร ReAct, Uppsala University, Sweden โดยมีตัวแทนนักวิชาการแพทย์ และเภสัชกรจากหลายประเทศในภูมิภาคอาเซียนเข้าร่วม

ผศ.นพ.กำธร มาลาธรรม คณะแพทยศาสตร์ ร.พ.รามาธิบดี ในฐานะเลขาธิการสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาวัยรุ่นและประชาชนทั่วไปซื้อยาในกลุ่มยาปฏิชีวนะมากินเอง เป็นการบ่มเพาะค่านิยมการซื้อยามากินอย่างพร่ำเพรื่อ และเป็นแหล่งเพาะเชื้อดื้อยาในร่างกายตนเอง จะเห็นจากสถานการณ์เชื้อดื้อยาเช่น เชื้อ “ E. coli ( อีโคไล) ” เป็นแบคทีเรียที่มีอยู่ในลำไส้ แต่เมื่อมีการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม (เช่น กินยาไม่ครบตามกำหนด กินยาที่ออกฤทธิ์กว้างเกินไป) จะส่งผลให้เชื้อดังกล่าวเกิดการดื้อยา ซึ่งหากถึงขั้นดื้อต่อยา cephalosporins ( เซฟาโลสปอริน) ก็ต้องหันไปใช้ยาในกลุ่ม carbapenems ( คาร์บาพีแนม) รักษาแทน หากใช้ยานี้รักษาไปนานๆ จะเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อดื้อยาตัวใหม่ ที่เรียกว่า “ ซุปเปอร์บั๊ก ” ซึ่งยังไม่มียาใดที่รักษาได้ โดยขณะนี้ “ ซุปเปอร์บั๊ก ” ได้แพร่กระจายอยู่ในอินเดีย ส่งผลให้รัฐบาลของประเทศอังกฤษและสวีเดน เตือนไม่ให้ชาวอังกฤษและสวีเดนมารักษาพยาบาลในประเทศอินเดีย เอเชียใต้ และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะเกรงว่าจะได้รับเชื้อดื้อยาตัวนี้

“ขณะนี้ประเทศไทยเริ่มมีผู้พบเชื้อกลุ่ม Enterobacteriaceae ( E. coli เป็นเชื้อชนิดหนึ่งในกลุ่มนี้) ที่ดื้อต่อยาคาร์บาพีแนมแล้ว แต่ยังพบไม่มาก ซึ่งเชื้อชนิดนี้อยู่ในลำไส้ จึงเป็นเหตุที่อาจก่อปัญหารุนแรงได้ในอนาคต ไม่เฉพาะแต่สุขภาพเท่านั้น อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจด้วย หากมีชาวต่างชาติมาท่องเที่ยวหรือมารับบริการทางการแพทย์ในประเทศไทยแล้ว เกิดติดเชื้อเหล่านี้ จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวและรับการรักษาใน ประเทศไทย ดังนั้นปัญหาเชื้อดื้อยาในประเทศและภูมิภาคนี้ จึงอยู่ในขั้นวิกฤตที่ต้องร่วมกันเฝ้าระวังและรณรงค์ทั้งในส่วนของบุคลากร ทางด้านสุขภาพ และประชาชนทั่วไปอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่ต้นทางที่ผู้ป่วยต้องเข้าใจถึงขั้นตอนการรักษาและปฏิบัติตามคำแนะนำ ของแพทย์ ไม่ใช่จะขอให้แพทย์สั่งยาปฏิชีวนะให้ทันทีเมื่อป่วยเป็นหวัดหรืออาการที่ยัง ไม่จำเป็น ซึ่งเป็นการใช้ยาที่ไม่สมเหตุสมผล และควรทราบว่ายาปฏิชีวนะ ไม่ใช่ยาแก้อักเสบ ทั้งนี้บุคลากรทางด้านสุขภาพก็ต้องตระหนัก และสั่งใช้ยาอย่างเหมาะสมด้วย ตลอดจนไม่เรียกยาปฏิชีวนะว่ายาแก้อักเสบ ซึ่งจะทำให้ประชาชนสับสน ” ผศ.นพ.กำธร กล่าว

นางกีรติกา แพงลาด เครือข่ายผู้ปกครอง มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า จากการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ของเครือข่ายผู้ปกครอง พบประเด็นที่น่าตกใจคือ แต่ละเดือนพ่อแม่ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายให้ลูกสาววัยรุ่นไปใช้ในการรักษาสิว โดยมีเด็กวัยรุ่นจำนวนมากนิยมซื้อยาปฏิชีวนะมากินเมื่อเกิดสิวอักเสบ และเมื่อสิวยุบหายก็หยุดกิน ทั้งที่ยังกินยาไม่ครบชุดการรักษา ซึ่งเป็นพฤติกรรมการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง นำไปสู่การเพาะเชื้อดื้อยา ในขณะเดียวกัน ผู้ปกครองและคณะครูในโรงเรียนจำนวนไม่น้อย ยังขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง มักคิดว่าเมื่อเจ็บป่วยเล็กน้อยต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาอาการเบื้องต้น ในห้องพยาบาลของโรงเรียนบางแห่งก็มีการจ่ายยาปฏิชีวนะให้เด็กด้วย ซึ่งพ่อแม่เองก็คิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องไปหาหมอ แต่นิยมไปซื้อยามากินเอง ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย โดยหารู้ไม่ว่า เรื่องเล็กๆเหล่านี้แหละ ที่เรียกว่า การใช้ยาอย่างไม่เหมาะสม ซึ่งจะก่อผลร้ายตามมาอย่างใหญ่หลวง

***************************************************