เมื่อวันที่ 26 มกราคม นพ.พงศ์พันธ์ วงศ์มณี รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า จากปัญหาการลักลอบนำยาแก้หวัดสูตรผสมที่มีส่วนประกอบของซูโดอีเฟดรีนไปใช้ เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติด ที่นับวันจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขและ อย. ได้เพิ่มระดับการควบคุมโดย บังคับใช้ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ยาควบคุมพิเศษฉบับที่ 40 ลงวันที่ 16 กันยายน 2554 กำหนดให้ยาสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบในรูปแบบยาเม็ด แคปซูล และยาน้ำ ยกเว้นสูตรผสมที่มีพาราเซตามอล เป็นส่วนประกอบ เป็นยาควบคุมพิเศษ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 19ธันวาคม 2554 เป็นต้นไป และออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง การควบคุมการจำหน่ายยาแก้หวัดสูตรที่มีส่วนประกอบของซูโดอีเฟดรีน (ฉบับที่ 3) ลงวันที่ 12 กันยายน 2554 โดยให้จำหน่ายยานี้ได้เฉพาะในสถานพยาบาลของรัฐและสถานพยาบาลของเอกชนประเภท รับผู้ป่วยไว้ค้างคืนเท่านั้นดังนั้น ตั้งแต่วันที่ 19 ธันวาคม 2554 เป็นต้นไป ต้องไม่มีการจำหน่ายยาแก้หวัดสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบในรูป แบบยาเม็ด แคปซูล และยาน้ำ (ยกเว้นสูตรผสมพาราเซาตามอล) ในร้านขายยาและคลินิกเวชกรรม

รวมทั้งได้ออกประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง การควบคุมการจำหน่ายยาน้ำที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือโปรเมทาซีน หรือเด็กซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ เนื่องจากพบปัญหาการนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานโดยไม่หวังผลในการรักษา และการลักลอบขายอย่างไม่ถูกกฎหมายโดยเฉพาะในพื้นที่ 4 ชายแดนภาคใต้ โดยอนุญาตให้ผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า จำกัดปริมาณการขายยาดังกล่าวให้ร้านขายยาได้ไม่เกิน 300 ขวดต่อแห่งต่อเดือน ส่วนเภสัชกรประจำร้านต้องควบคุมการทำบัญชีซื้อขายยาให้ครบถ้วนถูกต้องเป็น ปัจจุบัน และขายยาให้ผู้ป่วยได้ไม่เกินครั้งละ 3 ขวด

รองเลขาธิการฯ อย. กล่าวต่อไปว่า เพื่อไม่ให้มีการฝ่าฝืนมาตรการที่กำหนด อย.ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจร้านขายยาในเขตกรุงเทพฯ เพื่อตรวจสอบการจำหน่ายยาแก้หวัดสูตรผสมที่มีซูโดอีเฟดรีนเป็นส่วนประกอบและ ยาน้ำที่มีไดเฟนไฮดรามีน หรือ โปรเมทาซีน หรือ เด็กซ์โตรเมธอร์แฟน เป็นส่วนประกอบ ในระหว่างวันที่16-17 มกราคม 2555 จากการตรวจสอบร้านขายยาทั้งหมด 158 ร้าน พบยังมีการลักลอบจำหน่ายยาสูตรผสมซูโดอีเฟดรีน 13 ร้าน จำนวน 31 รายการ พบมีเภสัชกรอยู่ประจำร้านขายยา 48 ร้าน ไม่พบ 110 ร้าน

ทั้งนี้อย.จะได้ดำเนินการตามกฎหมายกับร้านที่กระทำผิด รวมทั้งตรวจสอบบัญชีของทางร้านว่ามีการซื้อขายยาถูกต้องหรือไม่ สำหรับร้านขายยาที่ไม่พบเภสัชกร อย.จะเปรียบเทียบปรับและส่งเรื่องให้สภาเภสัชกรรมดำเนินการด้านจรรยาบรรณต่อ ไป สำหรับในส่วนภูมิภาค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดจะดำเนินการตรวจสอบร้านขายยา