search ค้นหาภายในเว็บไซต์
 
 
โลโก้ กพย. โลโก้ สสส.
 
ลิงค์
บล็อก กพย.

เว็บไซต์ KnowSteroid

Facebook โฆษณา

Facebook สเตียรอยด์
Facebook Twitter
Youtube กพย.



สถิติ

ปรับปรุง : 7/03/2018
สถิติผู้เข้าชม:6646722
การเปิดหน้าเว็บ:9507043
Online User Last 1 hour (0 users)


 
  สธ.ยันเจรจา FTA ไทย-อียู ต้องต่อรอง
  05 ธันวาคม 2555
 
 


วันที่: 5 ธันวาคม 2555
ที่มา: ASTV ผู้จัดการออนไลน์
ลิงค์: www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9550000148033

    
    
       “หมอประดิษฐ” แจงนายกฯ ปูให้หลักการชัดเจน หากร่างการเจรจากรอบเอฟทีเอไทย-อียู เสียประโยชน์จะต้องต่อรอง ยันยึดผลประโยชน์ประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะเรื่องการขยายสิทธิบัตรยา

นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข
นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รมว.สาธารณสุข
    
       นพ.ประดิษฐ สินธวณรงค์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวกรณีร่างกรอบการเจรจากรอบการค้า (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป ว่า ร่างกรอบการเจรจานี้เป็นเรื่องที่ต้องนำเข้าคณะรัฐมนตรี แล้วโฆษกรัฐบาลจะเป็นผู้แถลงให้ทราบ ซึ่งในหลักการนั้นรัฐบาลมีหลักการที่ชัดเจน เมื่อนำเรื่องกรอบการเจรจาเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีแล้วจะต้องนำเข้าที่ประชุมรัฐสภาเพื่ออนุมัติอีกครั้งเพื่อให้เป็นกรอบไปเจรจา และเมื่อเจรจาเสร็จแล้วได้ผลเป็นอย่างไรก็ต้องแจ้งผลเพื่อให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอนุมัติผลการเจรจา และยังต้องนำเข้ารัฐสภาอีก
       
       “ในหลักการของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะประเด็นที่เป็นผลประโยชน์ของประเทศ นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายไว้อย่างชัดเจนว่าต้องไปต่อรอง โดยต้องไม่ให้เสียผลประโยชน์ของประเทศ เพราะฉะนั้นในหลายประเด็นที่หลายฝ่ายวิตก ไม่ว่าจะเป็นสิทธิบัตรยา การเข้าถึงยา ซึ่งจะมีวิธีเจรจา และขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการอยู่ ในหลักการจะไม่เสียสิทธิเดิมที่เรามีอยู่ และสมมติว่าหากเจรจาแล้วเขาไม่ยอมรับเรื่องนี้ เราก็จะไม่เจรจากับเขาในเรื่องนี้ นั่นหมายความว่าเราไม่ยอมรับในเรื่องที่เราจะเสียผลประโยชน์” รมว.สาธารณสุขกล่าว
       
       นพ.ประดิษฐกล่าวอีกว่า ในกรอบการเจรจาการค้านี้มีหลายเรื่องรวมถึงเรื่องยาด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องรับทุกเรื่อง เราต้องต่อรองว่าเราต้องการแบบนี้ เช่นในเรื่องเกี่ยวกับยา หากการเจรจาเป็นไปตามที่ฝ่ายเราต้องการคือ เราไม่เสียประโยชน์ใดๆ ทั้งเรื่องการขยายสิทธิบัตรยา การคุ้มครองตัวยา ก็ถือว่าจบ ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเพราะรัฐบาลมีหลักการที่ชัดเจนอยู่แล้ว การเจรจาเรื่องใดๆ นั้นต้องมีการต่อรอง เมื่อต่อรองกันแล้วไม่เสียประโยชน์เราก็จบ ถ้าเขาไม่ยอมเราก็ไม่คุยต่อ เพราะนายกรัฐมนตรีได้ให้กรอบไว้อย่างชัดเจน
       
       นพ.ประดิษฐกล่าวด้วยว่า กลไกการเจรจากรอบการค้าโดยทั่วไปนั้น หากเริ่มต้นมาตรการที่จะมีผลเสียต่อประเทศไทยเราจะหยุดชั่วคราวก่อนเพราะถือว่าอยู่ระหว่างการเจรจา และถ้าเราเริ่มต้นเจรจาก่อนที่ผลจะออกมาในอีก 2-3 ปีข้างหน้า จะเป็นผลดีต่อประเทศมากกว่าไม่เจรจา ฉะนั้น การที่เราไปยุติ บอกว่าไม่อยากจะเริ่มต้นการเจรจาจะมีแต่ผลเสียต่อประเทศ